จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ไปในทิศทางต่าง ๆ ถึงพฤติกรรมของพ่อค้าขายน้ำทับทิมใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง ที่ใช้ขวดและหลอดดูดน้ำเก่าจากลูกค้าทิ้งในถังขยะ นำกลับมากรอกน้ำผลไม้ขายซ้ำ ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้ ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบในการดื่นน้ำผลไม้ต้องกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องของโรคติดต่อที่มาจากพฤติกรรมมักง่ายของคนขาย วันนี้ เราจึงส่งทีมข่าวลงพื้นที่เพื่อสอบถามคนในบริเวณนั้น ติดตามรายละเอียดได้จากรายงานของ คุณฉัตปณิดาศ์ จันทร์ศิริ ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์
ชายคนนี้ในคลิปวิดีโอกำลังใช้มือล้วงลงไปในถุงขยะใส เพื่อหยิบขวดพลาสติกที่ผ่านการใช้แล้วจากลูกค้า นำมากรอกน้ำทับทิม ที่เขาคั้นไว้เพียงเล็กน้อยผสมกับสีและน้ำหวานปรุงแต่ง นำไปขายให้กับลูกค้าอีกครั้ง
ทีมข่าวไบรท์ทีวีลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง ฝั่งอาคารธนิยะ พลาซ่า สอบถามผู้คนละแวกใกล้เคียง ระบุว่า พ่อค้าขายน้ำทับทิมไม่ได้เข็นรถมาขายน้ำผลไม้ 2 วันแล้ว หลังจากที่มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางออนไลน์ ขณะที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ลงพื้นที่แห่งนี้เช่นกันก็ไม่พบชายขายน้ำทับทิมคนดังกล่าว
หลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบดื่มน้ำผลไม้เกิดความกังวลใจ เพราะเชื่อว่าร้านเหล่านี้จะต้องมีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช้เพียงสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้บริโภคในเรื่องของการเลือกซื้อน้ำผลไม้ให้ได้คุณภาพที่สะอาด ถูกหลักอนามัยเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการที่พ่อค้า แม่ค้า ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเกี่ยวกับ โรคติดต่อที่มาจากผลิตภัณฑ์ใช้แล้วกับความมักง่ายของแม่ค้าบางกลุ่มเท่านั้น ขณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ