รายงานพิเศษชุด สู้มะเร็ง ด้วยกัญ(ชา) ตอนที่ 5 วิธีใช้น้ำมันกัญชารักษามะเร็ง
เมื่อวานนี้เราได้นำเสนอขั้นและวิธีการสกัดน้ำมันจากกัญชาที่มีสารสำคัญ 2 ตัวที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งรวมถึงโรคอื่นอีกมากมาย ทีนี้หลายคนคงอยากรู้แล้วนะว่าเมื่อได้น้ำมันสกัดจากกัญชาแล้ว จะมีวิธีการนำไปใช้อย่างไร เพราะอาการป่วยแต่ละอย่างก็ใช้ต่างกัน ไปติดตามได้จาก รายงานพิเศษชุด สู้มะเร็ง ด้วยกัญ(ชา) ตอนที่ 5 วิธีใช้น้ำมันกัญชารักษามะเร็ง
การหยดน้ำมันสกัดกัญชาใต้ลิ้นและโคนลิ้น การใช้น้ำมันสกัดกัญชาสวนทวาร การแช่แข็งน้ำมันสกัดกัญชาเพื่อนำเอามาสอดที่ช่องคลอด และการทาน้ำมันสกัดกัญชาตามแผลภายนอกร่างกาย นี่คือ 4 รูปแบบในการใช้น้ำมันกัญชาเพื่อการรักษามะเร็งและโรคอื่นๆ แต่ละวิธีก็จะส่งผลต่อการรักษาแตกต่างกัน
“4 สูตร วิธีการใช้น้ำมันสกัดกัญชา (วิธีการหยดน้ำมันสกัดกัญชา)”
สูตรที่ 1. วิธีการหยดน้ำมันสกัดจากกัญชา ซึ่งวิธีนี้ยังแยกเป็นแบบ หยดใต้ลิ้นและหยดที่โคนลิ้น การหยดใต้ลิ้น สารสำคัญในกัญชาจะซึมเข้าสู่ระบบหัวใจได้เร็ว ใช้ในการรักษาโรคเกี่ยวกับสมอง ส่วนหยดบนลิ้น จะซึมลงกระเพาะอาหาร รักษาโรคที่เกี่ยวกับช่องปาก หากหยดน้ำยากัญชาหนึ่งหยด แล้วมึนเมาให้หยุด พักผ่อน แต่หากไม่มึนเมา ให้หยดที่สอง ที่สาม ไปเรื่อยๆ แต่ไม่เกิด 20 หยด หรือ 1 CC ต่อวัน
สูตรที่ 2. การใช้น้ำมันสกัดกัญชาด้วยการสวนทวาร วิธีนี้จะเน้นไปที่การรักษาโรคตับโดยตรง โดยใช้ไซริงค์ดูดน้ำมันสกัดจากกัญชาที่ผสมกับน้ำมันมะพร้าว ต่อเข้ากับสายน้ำเกลือ ที่สอดเข้าไปในที่รูทวารลึกประมาณ 2 นิ้ว แล้วดันไซริงค์ที่ผสมน้ำมันแล้ว เข้าสู่สายยางทีละนิด จนน้ำมันสกัดหมดไซริงค์ แล้วดึงสายยางออกจากรูทวาร
สูตรที่ 3. วิธีการแช่แข็งน้ำมันสกัดกัญชาเพื่อเหน็บในช่องคลอดผู้ป่วยสตรี เพื่อรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกโดยตรง โดยวิธีการง่ายๆคือ นำหลอดชาไข่มุกตัดความยาวขนาดเท่านิ้วก้อย แล้วนำน้ำยาสกัดกัญชาที่ผสมน้ำมันมะพร้าวบรรจุก่อนที่จะ นำไปแช่ในช่องแช่ให้ ลึกประมาณ 2-3 นิ้ว จากนั้นความร้อนในตัวเราปกติอยู่ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ก็จะละลายน้ำมันสกัดที่แช่แข็งนั้นให้อยู่ในร่างกาย
สูตรที่ 4. วิธีการทาน้ำมันสกัดกัญชา ใช้รักษาแผลภายนอกร่างกาย เช่น มะเร็ง เบาหวาน และสเก็ดระเบิดสงคราม โดยปริมาณการทาน้ำมันสกัดกัญชาที่ผสมแล้วนั้น คือ 1 CC ต่อวัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่ปริมาณของแผล
ร่างกายผู้ป่วยสามารถรองรับสาร THC จากน้ำมันสกัดกัญชาได้ 1 CC ต่อวันเท่านั้น โดยมีปริมาณการใช้จากน้อยไปมาก ขึ้นอยู่ที่รีเซพเตอร์ (Receptor) ตัวรับรู้ความรู้สึกส่วนบุคคล “อย่าลืมนะครับ เราไม่เมา มะเร็งไม่ตาย”