การรายงานความเคลื่อนไหวข่าว “ทีมหมูป่าติดถ้ำ” ที่ วนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ. แม่สาย จ. เชียงรายนั้น สื่อในพื้นที่ถือว่ามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะสามารถลงพื้นที่นำเสนอข่าวตั้งแต่เริ่มต้น และเกาะติดสถานการณ์สำคัญได้ดี
หนึ่งในเพจสื่อท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากข่าว ทีมหมูป่าติดถ้ำ นั่นก็คือเพจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย PR. Chiangrai แม้แต่สื่อหลักหลายสำนัก ก็ยังต้องนำเอาเนื้อหา คลิปต่างๆจากเพจนี้ไปรายงาน เพราะในช่วงวันแรกๆนั้น สื่อมวลชนจากสำนักต่างๆยังไม่ได้ส่งนักข่าวลงไปในพื้นที่
สำหรับคลิปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเพจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายนั้น เป็นคลิปถ่ายทอดสดเหตุการณ์วันที่ประกาศข่าวว่า พบตัวทีมหมูป่าทั้ง 13 คนแล้ว ซึ่งปัจจุบันคลิปนี้มียอดวิว 18 ล้านวิว มีคนแชร์ไป8 แสนกว่าครั้ง ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในไทยมาก่อน
และหากจะย้อนดูในช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา สำหรับคนที่ติดตามข่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะผ่านทางเฟซบุ้ก ก็จะเห็นบทบาทการทำหน้าที่รายงานข่าวเชิงรุกมากยิ่งขึ้น เห็นได้จาก เพจเฟซบุ้กในเครือของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ต้องการจะสร้างภาพลักษณ์ให้ทันสมัย เข้าถึงประชาชน อย่าง รวดเร็ว ถูกต้อง และ แม่นยำ
นอกจากเพจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายแล้ว ในรอบเดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดไหนบ้าง ที่ขึ้นมามีบทบาทในการเกาะติดนำเสนอข่าวผ่านทางเฟซบุ้กไลฟ์
เหตุการณ์เรือฟินิกส์ล่ม จ. ภูเก็ต
เพจประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ได้เข้ามามีบทบาทในการรายงานสดตั้งแต่เรือล่มใหม่ๆ โดยลงพื้นที่ ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง รายการสถานการณ์ที่มีผู้ว่าราชการภูเก็ต ลงมาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ เพจ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 5 ก็เกาะติดสถานการณ์ข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง เช่นการถ่ายทอดสด นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ. ภูเก็ต ติดตามช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม ถือเป็นการทำงานเชิงรุกมากขึ้นเพราะมีล่ามจีนร่วมบรรยายการถ่ายทอดสด และใช้คำบรรยายภาษาจีนเพิ่มเติมในคอมเม้นท์ตลอดการถ่ายทอดสด
พิธีพระราชทานเพลิงศพจ่าแซม
เพจสำนักประชาสัมพันธ์เขต2 ได้ดึงสัญญาณจากช่อง NBT ถ่ายทอดสดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้คนได้ติดตามผ่านทางโซเชียลมีเดียกันแบบยาวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบ
บรรยากาศต้อนรับหน่วยซีล
การต้อนรับหน่วยซีลที่ บ้านฉาง จ. ระยอง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ประชาชนทั่วไปติดตาม และเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี ก็ถ่ายทอดสดเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ผ่านเพจของตัวเอง
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวอย่างของการทำงานที่ปรับให้เข้ากับยุคดิจิทัล เห็นได้ว่า กรมประชาสัมพันธ์ที่เป็นหน่วยงานหลักในการสื่อสารข้อมูลจากภาครัฐ ไปสู่ประชาชน ก็สามารถที่จะปรับตัวเข้ากับยุค 4.0 ได้เป็นอย่างดี