โมบายแบงก์กิ้งล่มซ้ำซาก โยนผิดที่ “คน” อีกแล้ว

“ผิดที่คน ไม่ได้เกิดจากความไม่เพียงพอของระบบ”

เป็นประเด็นที่ชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (Banking IT Club) สมาคมธนาคารไทย พยายามจะสื่อว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบโอนเงินข้ามธนาคารผ่าน “โมบายแบงก์กิ้ง” ของ 5 ธนาคาร “ล่ม” พร้อมกัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ส.ค.ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา

สมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป ในเครือธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (Banking IT Club) แถลงเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ว่า ระบบโมบายแบงก์กิ้งที่ล่มในวันที่ 31 ส.ค.เกิดจากผู้ปฏิบัติงานใช้ “คำสั่ง” จัดการในการบริหารเครือข่ายไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้อุปกรณ์เครือข่ายหลักของธนาคารกสิกรไทย ทำงานไม่ได้ตั้งแต่เวลา 6.30 น.

ทำให้บริษัท ITMX ซึ่งเป็นบริษัทเชื่อมโยงเครือข่ายกลาง (switching) ระหว่างธนาคารได้ตัดระบบของธนาคารกสิกรไทยออกจากระบบกลางเมื่อเวลา 6.31 น. ซึ่งธนาคารได้เร่งแก้ไขระบบภายในด้านเครือข่ายและผลกระทบทั้งหมดเสร็จสิ้น เมื่อเวลา11.00 น. และเปิดให้บริการเป็นปกติได้ตั้งแต่ 11.05 น.เป็นต้นไป

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ระบบโมบายแบงก์กิ้งล่มในวันที่ 1 ก.ย.นั้น ระบบของธนาคารกสิกรไทยไม่ได้ขัดข้อง ยังทำงานได้ปกติ แต่มีรายการโอนเงินต่างธนาคารใส่ “เลขที่บัญชี” ไม่ถูกต้องเข้ามาจำนวนมาก ทาง ITMX เห็นผิดสังเกต จึงตัดธนาคารออกจากระบบกลางเมื่อเวลา 10.15 น.

“ลูกค้าทำธุรกรรมโอนเงินมีการใส่เลขที่บัญชีผิดกว่า 40,000 รายการตลอดวัน โดยไปกรอกเบอร์มือถือในช่องเลขที่บัญชี ส่งผลให้ ITMX ตัดระบบดิจิทัลของธนาคารออกจากระบบกลางทันที”

จากนั้นธนาคารกสิกรไทยได้เปลี่ยนไปใช้ช่องทางสำรองที่ PCC แทนทันที ทำให้ลูกค้าธนาคารกสิกรไทยสามารถโอนเงินไปยังทุกธนาคารได้ตามปกติ และลูกค้าบางธนาคารที่เชื่อมกับ PCC ณ ขณะนั้น สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยได้ แต่มีลูกค้าบางธนาคารไม่สามารถโอนมายังธนาคารกสิกรไทยได้

ต่อมาธนาคารกสิกรไทยทำงานร่วมกับ ITMX เพื่อยืนยันว่า ระบบของธนาคารสามารถทำงานได้เป็นปกติและไม่มีผลกระทบต่อธนาคารอื่นแล้ว ITMX จึงเชื่อมต่อระบบให้ทุกธนาคารสามารถโอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยได้ปกติเมื่อเวลา 16.11 น.

“รู้สึกเสียใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยอมรับข้อผิดพลาด” สมคิด ระบุ

พร้อมยืนยันว่า ระบบที่ล่ม 2 วันติด ไม่ได้เกิดจากตัวระบบของธนาคารกสิกรไทย และไม่ได้ส่งผลเสียหายเป็นมูลค่าเงิน เพียงแต่ทำให้การทำธุรกรรมล่าช้าเท่านั้น ในขณะที่โมบายแบงก์กิ้ง (K PLUS) สามารถรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินได้สูงถึง 6,000 รายการต่อวินาที ซึ่งเพียงพอรองรับการทำธุรกรรมในวันที่ 31 ส.ค.ที่มี 5.36 ล้านรายการ

สมคิด ยังกล่าวว่า ในเดือนต.ค.นี้ ธนาคารเตรียมเสนอบอร์ดบริษัทเพื่อของบ 1,000 ล้านบาท ลงทุนระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าเป็น 10,000 รายการต่อวินาทีในเดือนต.ค. และเพิ่มเป็น 50,000 รายการต่อวินาทีภายในสิ้นปี 2562

นอกจากนี้ ชมรมฯและ ITMX จะกำหนดแนวทางร่วมกันเพื่อป้องกันปัญหาระบบล่ม เช่น ลดคอขวดและเพิ่มประสิทธิภาพระบบโมบายแบงก์กิ้งให้รองรับการใช้บริการเป็น 2 เท่าของความต้องการ เพิ่มความสามารถของ ITMX อย่างน้อย 2 เท่ารองรับการโอนเงินข้ามธนาคาร และทบทวนระบบโมบายแบงก์กิ้งเพื่อลดความสับสนของผู้ใช้ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การตั้งโต๊ะชี้แจงเรียกความเชื่อมั่นของธนาคารกสิกรไทยครั้งนี้ เป็นชุดข้อมูลที่ “แตกต่าง” จากการรับรู้ของสังคมก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่ตัวผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เอง

วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การชำระเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งมีปัญหา เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นเดือนที่มีปริมาณธุรกรรมมาก โดยเฉพาะการทำธุรกรรมข้ามธนาคารที่เพิ่มขึ้นมาก หลังจากแบงก์แข่งขันยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามธนาคาร

“ประตูบ้านของธนาคารที่มีปัญหามันแคบ เมื่อมีรายการมารออยู่ที่ประตูเพื่อจะเข้าแบงก์ ก็เข้าไม่ได้ รวมถึงรายการที่จะออกจากประตูนั้น เพื่อไปธนาคารอื่นก็ออกไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาคอขวด รถติดต่อเนื่องทั้งถนน…ซึ่งสถาบันการเงินที่มีปัญหาก็ต้องเร่งยกเครื่อง เพื่อให้สามารถการรองรับการทำธุรกรรมที่เพิ่มมากขึ้น” วิรไทระบุ

แม้ว่าหลายคนยังกังขาว่าระบบโมบายแบงก์กิ้งที่ล่มเป็นโดมิโนนั้น เกิดจาก “คน” หรือการลงทุน “ระบบ” ที่ไม่เพียงพอกันแน่ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครออกมาการันตีว่าระบบจะไม่ล่มซ้ำซากเช่นนี้อีก

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า