เมื่อลองย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเหตุการณ์ น้ำท่วม ในช่วงเวลาเดียวกันและสาเหตุเดียวกันถึง 3 ปีติดในช่วงเดือนธันวาคม ปัญหาของน้ำท่วมทุกครั้งจะมีความเกี่ยวเนื่องกับน้ำที่ไหลลงมาจาก “เทือกเขาหลวง” ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ในวันที่ 16 ธันวาคม 2561 มีรายงานสถานการณ์ว่ามีเหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช เหตุเนื่องมาจากมีฝนตกหนักจนทำให้เกิดการไล่บ่าของน้ำจากเทือกเขาหลวง
เหตุการณ์น้ำท่วมที่คล้ายกัน เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาก็ขึ้นในช่วงเดียวกันคือ 3 ธันวาคม โดยเริ่มมีการประกาศเตือนประชาชนในจังหวัดให้เฝ้าระวังปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากสาเหตุเดียวกันคือมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และเตือนให้มีการเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาหลวงในวันถัดมาและเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมากรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาประกาศเตือนภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่จะพัดเข้าปกคลุมและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง และมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวลงทะเลอันดามันต่อไป ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กำลังได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออกในครั้งนี้ จากมรสุมตะวันออกนี้เองที่เป็นสาเหตุของน้ำท่วมหลายจังหวัดภาคใต้และหนักสุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝนที่เริ่มตกลงมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 และตกหนักขึ้นในเขตพื้นที่ของจังหวัดส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 1 นอกจากความรุนแรงของมรสุมแล้วชาวบ้านยังบอกอีกว่าปัญหาส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมขังเกิดจากการระบายน้ำของระบบระบายน้ำมีปัญหาด้วยความรุนแรงของมรสุมที่เพิ่มขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม ทำให้เกิดการไหลทลักของมวลน้ำจากเทือกเขาหลวงไหลบ่าเข้าเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยอำเภอที่หนักสุดได้แก่ อ.เมือง อ.พระพรหม อ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ลานสกา อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 30 ปี และเหตุหารณ์น้ำท่วมในครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 500,000 หลังคาเรือนในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ไม่เพียงแค่ครัวเรือนเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมในครั้งนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงเรื่องของการคมนาคมที่ทำให้เกิดการขาดของเส้นทางเดินรถไฟที่ถูกความรุนแรงจากน้ำป่าที่ไหลลงมา ส่งผลให้เกิดเหตุดินสไลด์ทับทางรถไฟ ระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์ – ช่องเขา อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธธรรมราช เกิดเหตุน้ำท่วมทางรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 757 ในย่านสถานีชุมทางทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้ขบวนรถเส้นทางดังกล่าวไม่สามารถผ่านได้ ส่งผลให้การรถไฟฯ ต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ และหยุดการเดินรถในบ้างเส้นทาง
ดร.สมพร ช่วยอารีย์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี บอกว่า สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในจ.นครศรีธรรมราช เคยกล่าวไว้ว่า หนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้น้ำไหล ลงมาท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในนครศรีธรรมราชอย่างรวดเร็ว ก็คือช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเห็นได้ชัด มีถนนกีดขวางทางน้ำ สะพานจุดใช้ระบายน้ำมีไม่เพียงพอ
นอกจากเรื่องการรักษาผืนป่าเพื่ออุ้มน้ำ ยังมีปัจจัยใหญ่ๆเรื่อง ปริมาณฝนมาก และความเปลี่ยนแปลง จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ของ เมืองที่ส่งผลให้ เมื่อน้ำมามาก ก็จะท่วมหนัก แล้วก็ระบายได้ยาก (อ้างอิง : ไทยพีบีเอส )
เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ยังคงมีแนวโน้มที่จะเกิดต่อไปอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี เพราะยังไม่มีการแก้ปัญหาจากในหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าภาคใตจะเคยประสบกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่มาหลายครั้งแล้ว แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายกลับไร้วี่แววที่จะได้รับการแก้ปัญหาหรือแนวทางการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิม เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เช่นกัน ถือเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในรอบ 30 ปี ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาคใต้จะได้รับการแก้ปัญหาที่จริงจัง ยั่งยืน และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการวนซ้ำแบบนี้ในทุก ๆ ปี