หลวงพี่เเต้ม พระมหาณัฐพงศ์ ชยวุฑฺโฒ พระภิกษุรุ่นใหม่วัย 25 ปี ที่ใช้ภาษาง่ายๆ สื่อสารกับวัยรุ่นให้หยุดฟังคำสอน เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “หลวงพี่มหาแต้ม”
จุดเริ่มต้นของพระนักเทศน์
จุดเริ่มต้นในการก้าวเข้ามาในร่มกาสาวพัสตร์ของหลวงพี่แต้ม เกิดขึ้นเมื่อท่านจบชั้นมัธยม 3 และเข้าร่วมโครงการบวชภาคฤดูร้อนหลังปิดเทอมเป็น 15 วัน เมื่อโครงการสิ้นสุดลงหลวงพี่แต้มติดใจในรสพระธรรม จึงไม่ได้กลับมาสู่ทางโลกพร้อมกับเพื่อนๆ
หลังจากติดตามพระอาจารย์ไปบรรยายธรรมะตามสถานศึกษา หลวงพี่แต้มจึงเกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นผู้เผยแพร่พระธรรม แม้ในช่วงเวลานั้นหลวงพี่แต้มซึ่งยังเป็นวัยรุ่นจะไขว้เขวที่จะออกมาใช้ชีวิตอย่างเพื่อนๆ วัยเดียวกัน แต่ความรักที่มีต่อแม่ก็เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ที่ทำให้หลวงพี่แต้มมีใจมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรมต่อไปเพื่อทำให้ผู้เป็นแม่เกิดความสบายใจ และนั่นทำให้เกิดความสุขที่ไม่ต้องอิงอาศัยสิ่งภายนอก เป็นความสุขที่เกิดในใจของเรา
“เป็นความสุขที่ไม่ต้องอิงอาศัยสิ่งภายนอก เป็นความสุขที่เกิดในใจของเรา”
สื่อสารคำสอนตรงใจวัยรุ่น
สไตล์การสอนของพระแต้มติดตลก และกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์และสามารทำให้วัยรุ่นหยุดดูคำสอนของท่านได้ และเข้ามาติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจไม่ขาดสาย พระแต้มลองผิดลองถูกกับการเผยแพร่พระธรรมให้กับคนรุ่นใหม่ และจับทางได้ว่า ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เชิงบวก มีความร่วมสมัย ยึดโยงกับหลักธรรมะเป็นแก่น คือสิ่งที่ผู้คนนิยม ตัวอย่างเช่นเรื่องความรัก ที่หลวงพี่แต้มเรียกยอดการมีส่วนร่วมได้อย่างล้นหลาม
อีกเทคนิคหนึ่งในการสื่อสารคือ พระแต้มเน้นสื่อสารให้ผู้ฟังนั้นเกิดความสบายใจ เบาใจ และเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่ชี้ผิดชี้ถูก ปล่อยให้ผู้เล่าเรื่องนั้นได้ทบทวนตัวเองผ่านสิ่งที่ตนเองพูด และหาคำตอบให้กับตัวเองได้ บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง
แม้การเผยแพร่คำสอนติดตลกเช่นนี้จะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง แต่พระแต้มเองก็อธิบายให้คนเหล่านั้นเข้าใจถึงจุดประสงค์ ที่อยากจะให้ผู้คนเข้าใจธรรมะได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่เปลี่ยนวิธีสื่อสารเท่านั้น
นอกจากพระแต้มจะวิธีการสื่อสารใหม่ๆ แล้ว ยังมีมุมมองต่อการนับถือศาสนาอย่างสมัยใหม่อีกด้วย พระแต้มมีคติที่จะไม่ยัดเยียดศาสนาให้ใคร เพราะเชื่อว่าหากไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขได้ ศาสนาที่เป็นเพียงความเชื่อ และศรัทธา บังคับกันไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องไปยัดเยียด
“ความดีอยู่ในจิตใจอยู่แล้ว ศาสนาเป็นเรื่องความเชื่อและศรัทธา บังคับกันไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องไปยัดเยียด”