เทียนทะเล – เมื่อไม่นานมานี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ออกประกาสคุ้มครอง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล เพื่อไม่ให้ไม้เทียนทะเลได้รับความเสียหายจากการลักลอบขุดเพื่อทำ การค้าบอนไซ หลังไม่กี่ปีมานี้ไม้เทียนทะเลเป็นที่ต้องการในหมู่นักเล่นบอนไซ หากต้นที่มีรูปทรงสวยงามอาจมีราคาอยู่ที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา เทียนทะเล ราคาพุ่งสูงไปถึง 2.5 ล้านบาท
เทียนทะเล มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pemphisacidula J.R. &G.Forst. เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 3-10 เมตร ขึ้นตามป่าชายหาดทั่วไป โดยเฉพาเก่ะแก่งโขดหิน มักพบในภาคตะวันออกเป็นส่วนมาก มีดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบ
ลักษณะเด่นของเทียนทะเล เป็นไม้ที่มีใบกลมรี ลำต้นสวยงาม โดดเด่นด้วยเปลือกสีเทาอมดำหรือน้ำตาลแดง เนื้อไม้เป็นริ้วชวนให้เหล่านักเล่นบอนไซสไตล์ไม้ซากมองว่าคลาสสิกและหลงใหลในความสวยงาม จนมีราคาที่ซื้อขายกันในตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พ่อค้าจะขุดตอเทียนทะเลตามชายหาดเพื่อนำไปดัดแปลงให้เป็นบอนไซสไตล์ไม้ซาก หรือที่เรียกกันว่าบอนไซเทียนทะเล
แต่อย่างไรก็ตาม แม้เทียนทะเล จะเป็นไม่ประดับที่กำลังได้รับความนิยม แต่ เทียนทะเล นั้นมีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ชายทะเลและป่าชายเลนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ตามชายทะเล อีกทั้งยังช่วยยึดหน้าดินไม่ให้พังทลายไปตามแรงขึ้นที่หนุนสูงทุกปีอันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนที่มนุษย์เป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น ดังนั้น เทียนทะเล จึงเป็นไม้ที่ควรหวงแหนไว้เพื่อสมดุลทางธรรมชาติ
ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวไว้ว่า มูลค่าไม้เทียนทะเลที่ซื้อขายกันที่ว่ามีราคาสูงแล้วนั้น เป็นเพียงมูลค่าที่เกิดจากความพึงพอใจระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย ซึ่งไม่รวมมูลค่าที่เป็นต้นทุนธรรมชาติ คุณประโยชน์ต่อระบบนิเวศและจะเป็นสมบัติของลูกหลานเราในอนาคตที่ยากที่จะประเมินมูลค่าเป็นตัวเงินได้ การบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเข้าตัดไม้เทียนทะเล เป็นความผิดทางอาญา ของป่าก็ควรที่จะอยู่กับผืนป่า ธรรมชาติได้สร้างสมดุลของระบบนิเวศทุกอย่างไว้หมดแล้ว
ขอบคุณภาพจาก : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง