ชุดไปรเวท กำลังตกเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมไทยว่าสามารถใส่แทนชุดเครื่องแบบนักเรียนได้หรือไม่ มีทั้งเสียงที่แสดงความคิดเห็นว่าสามารถใส่ชุดไปรเวทได้ และอีกหนึ่งเสียงจากกลุ่มของคนอนุรักษ์นิยมที่ยังคงบอกว่าการใส่ชุดไปรเวทเป็นการเพิ่มภาระให้กับทางครอบครัวของนักเรียน ซึ่งอาจทำให้เกิดการเหยียดชนชั้นฐานะกันในรั้วโรงเรียน นั่นหมายถึงการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย โดยชุดความคิดเหล่านี้ถ้าหากมองอีกแง่มุมหนึ่งก็เหมือนกับการซ่อนปัญหาไว้ที่ใต้พรม
กลุ่มนักเรียนเลว เปิดช่องทางให้นักเรียนแจ้งชื่อครู-โรงเรียน ที่ห้ามแต่ง ชุดไปรเวท
ความเหลื่อมล้ำมีอยู่ในทุกพื้นที่ของสังคมเรา ไม่ว่าจะใส่ชุดไปรเวท หรือ ชุดเครื่องแบบ ก็สามารถรับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ได้จากความเก่า-ใหม่ของชุดที่สวมใส่ในทุก ๆ วันได้อยู่แล้ว การเอาชุดเครื่องแบบมาแก้ปัญหาจึงไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเพราะปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่ได้เกิดจากการสวมใส่เสื้อผ้า และประสิทธิภาพของผู้เรียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องแบบที่สวมใส่ แต่ความสามารถจะพัฒนาขึ้นไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมโดยรอบและระบบการศึกษา
ตัวอย่างของสถานศึกษาที่ทำให้เห็นว่าการใส่ ชุดไปรเวท ไม่ได้ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมเห็นได้จากกรณีของโรงเรียนอมาตยกุล ที่ให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถใส่ชุดไปรเวทไปเรียนได้โดยไม่เกิดปัญหาความเหลื่อล้ำภายในโรงเรียน โดยนางรัชนี อมาตยกุล ผู้จัดการโรงเรียนกล่าวว่า โรงเรียนอมาตยกุล เปิดทำการสอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 แล้ว ปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 1,700 คน ซึ่งทางโรงเรียนนโยบายในการให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาโรงเรียน ซึ่งมีมานานกว่า 20 ปี โดยมีจุดประสงค์ของทางโรงเรียน คือ อยากเห็นเด็กใส่ชุดธรรมดามาโรงเรียน อยากให้เด็ก ๆ รู้สึกว่ามาการมาโรงเรียนเป็นเพียงวันธรรมดา ที่เรียบง่าย มาโรงเรียนและมีความสุข
จากกรณีของโรงเรียนอมาตยกุล ทำให้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้ว เสื้อผ้าไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม ไม่ได้ส่งผลเสียต่อการเรียนของนักเรียนในโรงเรียน เพราะฉะนั้นแล้วเราต้องมองข้ามเรื่องของการใส่เครื่องแบบ และมองลงไปให้ลึกถึงปัญหาที่แท้จริงที่ถูกปิดซ่อนไว้ภายใต้ชุดคำที่ว่า “เครื่องแบบนักเรียนสามารถลดความเหลื่อมล้ำของสังคมในรั้วโรงเรียนได้
และอีกหนึ่งกรณีที่ได้เรียนรู้จากการทดลองให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาโรงเรียนคือ กรณีของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ที่อนุญาตให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาเรียนแทนเครื่องแบบนักเรียนในทุก ๆ วันอังคาร ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 มกราคม 2562 เป็นต้นไป ของนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ทำให้ได้เรียนรู้ 3 ทักษะใหม่เพิ่มเติม คือ ทัศนคติดี เข้าใจสังคมและกล้าแสดงออกมากขึ้น
สุดท้ายแล้วการสวมใส่ชุดเครื่องแบบเป็นเพียงแค่การกำหนดบทบาทของผู้สวมเท่านั้น ว่าผู้สวมชุดนักเรียนคือผู้ที่กำลังรับบทบาทในฐานะนักเรียน ในขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพไปด้วย และถูกครอบลงไปด้วยชุดคำที่ว่า “ชุดเครื่องแบบสามารถลดปัญหาความเหลื่อมล้ำได้” ซึ่งเป็นเหมือนกับการเอาผ้ามาห่อปัญหาที่จะไม่หายไปและคงอยู่ในห่อผ้านั้นตลอดไป
ทีมข่าวไบรท์ทูเดย์
สามโรงเรียนดังประกาศกฎคุมเข้ม กรณีนร.นัดแต่ง ชุดไปรเวท
กลุ่มนักเรียนกางระเบียบกระทรวงฯ ชี้ชัดๆ นร.แต่ง ชุดไปรเวท ครูไม่มีสิทธิ์มาลงโทษ