ปัจจุบันคณะผู้เชี่ยวชาญยังไม่พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอจะยืนยันว่าความร้อนจะชะลอการแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19
ทอม คอตซิมโบซ์ รองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโมนาชของออสเตรเลีย และแพทย์ระบบทางเดินหายใจประจำโรงพยาบาลอัลเฟร็ดในเมืองเมลเบิร์น เปิดเผยว่า าไวรัสโควิด-19 เป็นไวรัสเกิดใหม่ ดังนั้น มิได้หมายความว่ามันจะมีลักษณะเหมือนไวรัสสายพันธุ์อื่นน่าสนใจตรงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว บ่งชี้ว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้พึ่งพาอุณหภูมิในการระบาดหรือการพึ่งพานั้นอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญต่อการแพร่ระบาด
บทความในวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต เมื่อวันที่ 2 เม.ย. รายงานว่าคณะนักวิจัยจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกงของจีน ค้นพบความสัมพันธ์เชิงผกผันระหว่างอุณหภูมิและความคงตัวของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยระบุว่าไวรัสฯ มีความคงตัวสูงเมื่ออยู่ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส และมีระยะฟักตัวนานสูงสุด 14 วัน และเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 70 องศาเซลเซียส ระยะเวลาในการทำให้ไวรัสฯ หมดฤทธิ์จะลดลงเหลือ 5 นาที
ด้าน คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นทำการวิเคราะห์ด้วยหลักเกณฑ์ ดังนี้
- จำนวนผู้ป่วยสะสมใน 224 เมือง ซึ่งแต่ละเมืองมีผู้ป่วยสะสมไม่น้อยกว่า 10 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 9 มี.ค.
- ค่าเฉลี่ยที่ผู้ป่วยหนึ่งรายจะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นในประชากรที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน (basic reproduction number) ของ 62 เมืองที่มีจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 50 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 10 ก.พ.
- ข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา อาทิ อุณหภูมิ ความชื้น และรังสียูวี ก่อนได้ข้อสรุปว่า “อุณหภูมิโดยรอบไม่ได้ส่งผลกระทบอันมีนัยสำคัญต่อความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และ “นี่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับการระบาดของโรคเมอร์ส (MERS) ในคาบสมุทรอาหรับ
ซึ่งยังคงตรวจพบผู้ป่วยแม้อุณหภูมิในพื้นที่จะสูง 45 องศาเซลเซียส”
ภาพ : China Xinhua News