ไฟป่าภูกระดึง “ไม่ว่าท่านจะเป็นใครใหญ่ แค่ไหน ถ้าท่านมาเผาป่าที่เป็นทรัพย์สมบัติแผ่นดินไทย เราจะไม่ยอมอีกต่อไป” นี่คือหนึ่งในถ้อยคำหนักแน่น ที่ทีมข่าว Bright Today ได้รับฟังเต็มสองรูหู ด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำของนาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้เกียรติให้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับทีมข่าว Bright Today ระหว่างการเดินทาง และร่วมเกาะติดสถานการณ์ ไฟป่าภูกระดึง บนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ที่ได้รับความเสียหายกว่า 3,400 ไร่

พร้อมกันนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้ร่วมเดินทางลงพื้นที่มาดูสถานการณ์ด้วยตัวเอง อีกทั้งได้ร่วมมือช่วยทำแนวกันไฟป่า พร้อมกับคณะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเลย และกำลังพลทหาร กระทรวงกลาโหม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงในอนาคต
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรัฐมนตรี ที่มีความทุ่มเท ทั้งร่างกายและจิตใจ เข้าถึงพื้นที่ ไม่เพียงเท่านั้น รัฐมนตรีท่านนี้ยังมีมุมมองความคิดเห็นเรื่องประเด็น ไฟป่าภูกระดึง ได้อย่างน่าสนใจ จะมีประเด็นอะไรบ้างนั้น เชิญติดตามกันเลย

Q: จากเหตุการณ์ไฟไหม้ภูกระดึงครั้งนี้ท่านรู้สึกอย่างไร?
A: เรียกว่าเป็นความสะเพร่าและด้วยความที่ไม่ระมัดระวัง ของคนบางกลุ่ม การที่เกิดไฟไหม้จะด้วยเหตุผลประการใดก็แล้วแต่ จะว่าจงใจจะว่าทำเพื่อ เคลียร์พื้นที่ในการหาประโยชน์ แต่ว่าผลที่ตามมาคือไฟกระหย่อมเดียวที่อยู่ตรงเชิงเขา นั้นเป็นลูกไฟที่ลอยขึ้นมาบนภูกระดึง จากระยะความสูง1พันกว่าเมตร แล้วพื้นที่บริเวณนี้ตามที่พวกเราเห็น เป็นต้นสนทั้งนั้น เวลาต้นสนโดนไฟมีทั้งน้ำมัน และก็มีต้นเฟิร์นทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการที่พี่น้องประชาชนจะทำอะไรก็แล้วแต่ อยากจะขอความกรุณาให้มากๆ ว่าผลกระทบสิ่งที่านกำลังทำอยู่นั้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างไรกับประเทศชาติกับทรัพยากรประเทศไทยของพวกเรา เพราะว่าป่านั้นกว่าจะเติบโตขึ้นมาได้ ตามสภาพที่เราเห็น ใช้เวลานับแรมปี แต่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที หรือไม่กี่นาทีของคนบางกลุ่ม ของคนบางคน ทำให้เกิดความเสียหายนับร้อยนับพันไร่

ก็อยากจะขอความกรุณาพี่น้องประชาชนทุกคน สื่อมวลชนทุกแขนงว่านับจากนี้ไป ประเทศไทยเรา เหลือป่าไม้ เหลือพื้นที่สีเขียวไม่มากแล้ว ถ้าหากท่านยังไม่ระมัด ระวัง ถ้าหากท่านยังสะเพร่า ถ้าหากท่านยังไม่มองคิดถึงส่วนรวม อีกหน่อยประเทศไทย ตระกูลไทยก็จะไม่มีพื้นที่สีเขียว ก็จะไม่มีอุทยานแห่งชาติ ก็จะไม่มีป่าไม้เหลือให้กับลูกหลานและที่สำคัญเราจะไม่มีน้ำ จะไม่มีโรงงานผลิตน้ำอีกต่อไป และก็จะทำให้พี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ ประสบกับปัญหาภัยแล้งเหมือนกับที่เราประสบอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้นถึงเวลาแล้วน่ะครับ มาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมพวกเรา คิดให้มากๆ คิดให้ไกลๆ คิดถึงลูกหลานของพวกเรากันดีกว่าน่ะครับ

Q: หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ต่อไปจะมีวิธีการจัดการอย่างไร?
A: ต้องเรียนว่าวิธีการป้องกันในส่วนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยตรงอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า พรรณพืช กรมป่าไม้ เราได้เข้มงวดในการตรวจตรา ลาดตระเวน และก็ขอความร่วมมือไปยัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และก็กำลังทหาร กระทรวงกลาโหม ในการที่จะเข้มงวดการตรวจตรา ก็ขอย้ำว่าถ้าหากเราสามารถพบผู้ที่ก่อให้เกิดไฟไหม้ เราจะดำเนินคดี โดยเด็ดขาดไม่ว่าท่านจะเป็นใครใหญ่แค่ไหน หรือท่านจะเป็นเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา แต่ถ้าท่านมาเผาป่าที่เป็นทรัพย์สมบัติแผ่นดินไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราจะไม่ยอมอีกต่อไป
Q: การลงพื้นที่ครั้งนี้นอกจากเรื่องไฟไหม้ป่า ที่ภูกระดึง มีเรื่องอะไรที่อยากพัฒนา?
A: สาเหตุที่เดินขึ้นมาต้องเรียนว่าไม่ได้อยากสนุก ไม่ได้อยากเอาเท่ เอามันส์ แต่ว่าการที่จะมาพัฒนาสถานที่แห่งใดได้นั้น เราจะต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง การที่เดินทางกว่า 5 (ห้า) กิโลเมตร และความสูงชัน 200 (สองร้อย) กว่าเมตร ตลอดระยะทางนั้น
มีจุดพักต่างๆ มีจุดให้บริการของอุทยานต่างๆ ทำให้เห็นว่ายังมีอีกหลายประเด็น หลายจุดที่เราต้องนำมาปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของศักยภาพในการทำงาน ซึ่งก็จะมีในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ของกระทรวงทรัพฯ กับอุทยานแห่งชาติภูกระดึงแห่งนี้ เราก็จะนำเข้าที่ประชุมและภายในเดือนสองเดือนจากนี้ เราก็จะได้เห็นการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น

Q: ช่วยอธิบายแนวคิดการพัฒนาให้ยั่งยืนมากขึ้นแบบไม่กระทบวิถีชีวิตชาวบ้านเป็นอย่างไร?
A: ต้องฟังเสียงคนหลายๆกลุ่มก่อน การพัฒนานั้นแน่นอน คนเห็นด้วยก็มากมีคนเห็นต่างก็พอสมควร ดังนั้นการที่จะพัฒนาต้องใช้ความร่วมไม้ ร่วมมือของพี่น้องประชาชนทุกๆคน ซึ่งการที่จะพัฒนาไปข้างหน้าได้ ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะมีความเห็นอย่างไรก็แล้วแต่ พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเลย อยากจะเห็นความยั่งยืนของเพชรเม็ดนี้ของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จนถึงชั่วลูกชั่วหลานไม่อยากเห็นเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง สวยงามเพียง 5ปี 10ปี แล้วก็ไม่มีอีกต่อไป
ดังนั้นการจะทำกระเช้า การจะทำอะไรก็แล้วแต่ ในพื้นที่แห่งนี้คงจะได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มคนส่วนใหญ่และที่สำคัญจะต้องเป็นประโยชน์กับจังหวัดเลย กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ แต่ว่าการจะสร้างหรือไม่สร้างนั้น วันนี้เราคงจะตอบไมได้ เนื่องจากต้องหาข้อมูล ต้องรับฟังความคิดเห็นจากคนหลายกลุ่มอีกมากมาย


สัมภาษณ์และภาพ Bright Today