กล่องสูบเป่าลมโบราณที่ทำจากไม้ เป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่ส่งผ่านมายังลูกหลาน นับวันจะสูญสลายไปกับกาลเวลา อาชีพตีเหล็กแบบโบราณเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่แทบจะหาคนทำไม่ได้แล้วในปัจจุบันนี้ เรียกว่าทั่วทั้ง จ.สิงห์บุรี จะมีเหลืออยู่เพียงที่นี่ที่เดียว
“ลุงตึ๋ง” หรือ นายเดือน เปียสงวน ช่างตีเหล็กแห่งบ้านระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของครูตีเหล็กในแถบนี้ โดยบอกว่า ก่อนตีเหล็กต้องจุดธูปบอกเล่าครูบาอาจารย์ทุกครั้งจึงจะเริ่มงานได้ ตนเองทำอาชีพนี้มานานกว่า 40 ปีแล้ว เมื่อก่อนจะมีคนทำอาชีพนี้กันอยู่หลายราย แต่พอความเจริญเข้ามาการตีเหล็กก็เปลี่ยนไป มีการพัฒนาเอาเครื่องมือเครื่องจักรสมัยใหม่เข้ามาใช้เป็นเครื่องทุ่นแรงประหยัดเวลาและเพิ่มจำนวนการผลิต แต่คุณภาพจะต่างกัน การตีเหล็กแบบโบราณจะต้องใช้แรงงานคนในการตีเหล็ก ดังนั้น เหล็กที่ถูกเผาและตีจึงเป็นการนวดเหล็กไปด้วยจึงทำให้เหล็กตลอดทั้งเล่มมีคุณภาพความแข็งแกร่งเท่ากันตลอดทั้งเล่ม
“ลุงตึ๋ง” ยังบอกอีกว่า ในสมัยก่อนจะตีมีด ตีจอบ เสียม พลั่ว และเคียวเกี่ยวข้าว ซึ่งเคียวเกี่ยวข้าวจะขายดีและมีมาให้เข่นหรือซ่อมแซมเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากที่มีรถเกี่ยวข้าวเข้ามา การตีเคียวเกี่ยวข้าวก็หมดไป ปัจจุบันจึงมีแต่การตีมีด ตีเสียม และอื่น ๆ รวมถึงการซ่อม มีด จอบ เสียม พลั่วและอื่น ๆ เป็นงานหลักซึ่งก็พอสร้างรายได้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ โดยมีดดาบที่ตีเองจะขายในราคาเริ่มต้นที่ 700-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด มีดเหน็บราคาตั้งแต่ 400-600 บาท ส่วนการซ่อมมีดและเครื่องมืออื่น ๆ จะคิดแค่เล่มละ 60 บาทเท่านั้น หากเป็นงานซ่อมลูกค้าสามารถรอรับกลับไปได้เลย ตลอดทั้งวันที่เปิดร้านจะมีลูกค้าที่ไม่เคยเห็นการตีเหล็กแบบโบราณนี้ให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก มีลูกค้าบางรายเดินทางมาจากจังหวัดอื่น ๆ นำเครื่องมือเครื่องใช้ที่ชำรุดมาซ่อม
สำหรับร้านของ “ลุงตึ๋ง” เปิดทำการในวันเสาร์-วันอาทิตย์ที่ตลาดบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี และในวันธรรมดาจะทำอยู่ที่บ้าน นอกจากจะตีเหล็กเพื่อเลี้ยงครอบครัวแล้ว “ลุงตึ๋ง” ยังรับสอนวิชาตีเหล็กแบบโบราณนี้ให้กับลูกหลานและผู้ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้ เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเอาไว้อีกด้วย หากท่านใดสนใจจะมาเรียนหรือสอบถามในเรื่องการตีเหล็กก็สอบถามมาได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ 08-6123-2710