ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันนะคะว่านี่เป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย และเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจหรือเปล่า… เพราะมีผลการสำรวจของบริษัทด้าน HR ข้ามชาติระบุว่า ‘กรุงเทพฯ’ ได้ไต่อันดับสู่ Top Chart 100 เมืองที่ค่าครองชีพของชาวต่างชาติ ‘แพงที่สุดในโลก’!
ผลสำรวจรายครึ่งปีที่จัดทำโดยบริษัท ECA International ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลข้ามชาติ ได้ทำการประเมินค่าครองชีพในเมืองต่างๆ 450 แห่งใน 196 ประเทศ โดยล่าสุดเผยให้เห็นว่าประเทศไทยมีอัตราค่าครองชีพที่แพงมากขึ้นกว่าเดิม และเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ก้าวเข้าสู่ 100 อันดับประเทศที่ค่าครองชีพสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยมีราคาแพงที่สุดในโลก
โดย Lee Quane ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของ ECA International กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในขณะที่ชาวต่างชาติมักมีความคิดซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายว่าประเทศไทยเป็นสถานที่ที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในราคาประหยัด และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง แต่อันดับ ‘ความแพง’ ของกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้น 32 อันดับ ทำให้เมืองหลวงของไทยก้าวเข้าสู่ท็อป 100 ของผลการสำรวจนี้
ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของ ECA International ยังระบุด้วยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ไต่ระดับขึ้นไปกว่า 80 อันดับ และตอนนี้เมืองหลวงของประเทศไทยก็อยู่ในอันดับที่ 90 ของเมืองที่ค่าครองชีพสำหรับชาวต่างชาติค่อนข้างมีอัตราที่สูง เพราะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวและภาพรวมทางการเมืองมีเสถียรภาพ ซึ่งหมายความว่าสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยมีราคาแพงขึ้นสำหรับแรงงานต่างด้าว มากกว่าที่เคยเป็นมา
ทั้งนี้ แชมป์ของเมืองที่มีราคาแพงที่สุดในโลกคือ อาชกาบัต (Ashgabat) เมืองหลวงของเติร์กเมนิสถาน ที่พุ่งขึ้นมาจากเดิม 145 ตำแหน่งตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งอุนดับที่ก้าวกระโดดนี้เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืดที่พรวดพราดควบคู่ไปกับปัญหาการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ ทำให้ระดับเงินเฟ้อในเติร์กเมนิสถานพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมี ‘ฮ่องกง’ ที่ครองตำแหน่งรองแชมป์ อยู่อันดับที่สองของเอเชียรองจากเมืองอาชกาบัต (อันดับที่ 6 ของโลก) ตามมาด้วยกรุงโซล และกรุงโตเกียว ส่วนอันดับที่ 2-5 เมืองที่แพงที่สุดในโลกตกเป็นของ 4 เมืองในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และไม่มีเมืองในสหรัฐอเมริกาที่ไปถึง 10 อันดับแรก อย่างไรก็ตาม 5 เมืองของมะกันก็เตร็ดเตร่อยู่ที่ 50 อันดับแรก โดยนิวยอร์กมีอัตราค่าครองชีพสูงสุดอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก
การสำรวจค่าครองชีพ หรือ Cost of Living นี้เป็นการเปรียบเทียบแง่มุมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ โดยรวมไปถึงอาหาร การดำรงชีพพื้นฐานอย่างที่พัก ระบบขนส่ง การเดินทาง ฯลฯ และความต้องการใช้จ่ายทั่วไป จำพวกค่าเล่าเรียน ค่าน้ำค่าไฟ และค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ
ก็หวังว่าจะติดอันดับโลกแค่เฉพาะค่าครองชีพของชาวต่างชาตินะคะ… อย่าขยายมาถึงชาวไทยตาดำๆ อย่างเราเล้ยยยย
ที่มา: www.coconuts.co
