คจร.เห็นชอบบรรจุรถไฟฟ้าต่อขยาย “สายสีเหลือง-สายสีชมพู” ไว้ในแผนแม่บทจราจรกทม. ก่อนเสนอครม.อนุมัติ พร้อมรับทราบแผนลงทุนรถไฟรางเบาในหัวเมือง 5 เส้นกว่า 1.8 แสนล้านบาท ขณะที่รฟม.จ่อเซ็นเอ็มโอยู ยกหนี้ค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กทม. 1 ธ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้บรรจุโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 โครงการ ไว้ในแผนแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
สำหรับรถไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ 1.รถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึง แยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร 3,779 ล้านบาท ซึ่งจุดเริ่มต้นโครงการจะอยู่ที่บริเวณสถานีรัชดา ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง (สายหลัก) เชื่อมไปยังสถานีพหลโยธิน 24 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และจะมีทางเดินยกระดับแนวเกาะกลางถนนรัชดาภิเษกด้วย
2.รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กิโลเมตร 3,379 ล้านบาท ซึ่งมีจุดเริ่มต้นโครงการจะอยู่บริเวณสถานีศรีรัช รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี (สายหลัก) ก่อนจะวิ่งเข้าสู่เมืองทองธานี ไปตามซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 ขนานไปกับทางพิเศษอุดรรัถยา ผ่านวงเวียนเมืองทองธานี และวิ่งต่อเนื่องไปยังจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี
ทั้งนี้ รฟม.จะเสนอทั้ง 2 โครงการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติให้ก่อสร้างต่อไป โดยทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการที่จะภาครัฐจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการโอนหนี้ค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าวสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งภายในเดือนต.ค.นี้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง จะหารือกันเพื่อจัดทำร่างบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในการโอนหนี้และการรับภาระดอกเบี้ย ก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเดือนพ.ย.นี้
“หลังครม.เห็นชอบแล้ว รฟม.กับกทม. จะลงนามเอ็มโอยูเพื่อโอนทรัพย์สินและหนี้สินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเชียวในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ และจะมีการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป”นายชัยวัฒน์กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบแนวทางแก้ไขปัญหาการเดินทางของประชาชนที่ได้รับกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง คือ สายสีส้ม สายสีเหลือง และสายสีชมพู ซึ่งเบื้องต้นทาง ขสมก. ได้ทดลองเดินรถโดยสารในเส้นทางปกติและทางด่วนควบคู่กัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการเลี่ยงการจราจรติดขัด
นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ที่ประชุมคจร. รับทราบความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเบา 5 โครงการ ได้แก่ 1.รถไฟฟ้ารางเบา จ.ภูเก็ต ระยะทาง 41.70 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุน 30,154 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ และ2.รถไฟฟ้ารางเบา จ.เชียงใหม่ ระยะทางรวม 34.93 กิโลเมตร 95,321 ล้านบาท ซึ่งอยู่การจัดทำแผนการจราจร
3.รถไฟฟ้ารางเบาในเขตเมือง จ. นครราชสีมา ระยะทางรวม 50.09 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 32,600 ล้านบาท ซึ่งอยู่การจัดทำแผนการจราจร และยกร่างกฎหมายให้อำนาจรฟม.ในการดำเนินการโครงการดังกล่าว 4.รถไฟฟ้ารางเบา จ.ขอนแก่น ระยะทางรวม 22.8 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 26,963 ล้านบาท ซึ่งจะให้จังหวัดเป็นผู้พัฒนา และ5.รถไฟฟ้ารางเบา จ.พิษณุโลก อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบโครงการ
