“อัศวิน” เผย “บีทีเอส” ยอมรับเงื่อนไขเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสไม่เกิน 65 บาทตลอดทั้งสาย แลกขยายสัมปทานออกไป 20 ปี พร้อมรับภาระหนี้แสนล้าน เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติเดือนพ.ย.นี้
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้กทม.ได้เจรจากับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อให้กำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดทั้งสาย ซึ่งรวมถึงส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะเปิดให้บริการในเดือนธ.ค.นี้ และส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่จะเปิดให้บริการในปี 2563 เป็นไม่เกิน 62 บาท/เที่ยว รวมระยะทาง 60 กิโลเมตร
“เราบอกเขาว่า ทั้งเส้นสายสีเขียวทั้งหมด 60 กม.ต้องไม่เกิน 65 บาท/เที่ยว ถ้าเกินไม่เอา ซึ่งตอนคุยนอกรอบเขาโอเคมาแล้ว เพราะถ้าเก็บตามระยะทางปกติจะสูงสุด 142 บาท/เที่ยว มันแพง และถ้าเก็บส่วนต่อขยายเพิ่มอีก 6 บาท เขาอยู่ได้ เพราะคนใช้รถเยอะ”พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันบีทีเอสเก็บค่าบริการรถไฟฟ้าไม่เกิน 59 บาท/เที่ยว แบ่งเป็นค่าบริการรถไฟฟ้าในเส้นทางสัมปทานเดิมไม่เกิน 44 บาท/เที่ยว และค่าบริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 15 บาท/เที่ยว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเงื่อนไขที่บีทีเอสจะได้รับ หากเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดทั้งสายที่ไม่เกิน 65 บาท/เที่ยว คือ กทม.จะขยายอายุสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายให้กับบีทีเอสเพิ่มอีก 20 ปี แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าบีทีเอสจะต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินและดอกเบี้ยค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่กทม.รับโอนมาจากรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเงิน 1 แสนล้านบาท
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.จะเรื่องการปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส การปรับแก้สัญญาสัมปทาน และการโอนหนี้สิน 1 แสนล้านบาทให้บีทีเอส ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนพ.ย.นี้ และจะลงนามสัญญาร่วมกันก่อนเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในเดือน ธ.ค.นี้
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.นี้ กทม.จะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 9 สถานี 13 กิโลเมตร ได้แก่ สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้า สถานีข้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนรายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะ โดยจะให้บริการฟรีไปจนถึงต้นปีหน้า รวมถึงเจรจากับบีทีเอสให้เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดทั้งสายเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุดไม่เกิน 65 บาท