ชาเย็น เครื่องดื่มยอดฮิต ที่หลายๆคนติดใจ ด้วยรสชาติที่อร่อย หวาน หอม กลมกล่อม เมื่อได้ดื่มเข้าไปยังทำให้รู้สึกสดชื่น แถมยังหาซื้อได้ง่าย มีหลายราคาให้เลือกซื้อ และยังมีท็อปปิ้งเป็นไข่มุก หรือขนมต่างๆในเครื่องดื่ม แต่ใครจะไปรู้ ว่าเจ้าชาเย็นเนี่ย จะมีพิษมีภัยให้โทษได้ถึงขนาดนี้
โดยหมอที่พบผู้ป่วยมีอาการแขนขาอ่อนแรง หรือเรียกว่า “โรคอัมพฤกษ์” เมื่อได้ลองสืบลึกลงไป พบว่า สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดื่มชาเย็น หรือ น้ำแข็งเป็นประจำ และไม่กินผักตั้งแต่เด็ก ทานแต่เนื้อสัตว์ ที่สำคัญคือดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ
อาการเริ่มต้นของกล้ามเนื้ออ่อนแรง มึนหัวง่าย เหมือนเห็นไฟแว็บๆที่ตาจขณะกระพริบตา การพูดมีติดขัด และสุดท้ายเกิดอาการวูบกะทันหัน เมื่อรู้ตัวอีกที ผู้ป่วยจะไม่สามารถขยับร่างกายซีกซ้ายได้อีกแล้ว นี่คืออาการของ “โรคเส้นเลือดตีบในสมอง” เพราะดื่มแต่น้ำเย็น
การดื่มชาเย็น ทำให้ไตต้องรีบกำจัดความเย็นออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ขับน้ำเย็นมาเก็บไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ เตรียมขับออกเป็นน้ำปัสสาวะ จะทำให้ขาดน้ำ จนเลือดข้น หนืด ประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่น มีคราบไขมัน และมีของเสียไปเกาะตามผนังหลอดเลือด จนสุดท้ายเป็น “โรคหลอดเลือดตีบ”
ยังมีอีก! เมื่อไตของเรา ที่ต้องทำหน้าที่ช่วยกรองของเสียออกจากเลือด ขับออกทางปัสสาวะ ตลอด 24 ชม. และเราไปใช้งานมันหนักขึ้นด้วยการรับประทานอาหารที่เป็นพิษต่อร่างกาย รวมทั้งดื่มน้ำเย็นตลอด ทำให้เกิด “ภาวะไตอ่อนแอ”
และจากภาวะไตอ่อนแรง จะทำให้ ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นาน ดื่มน้ำปุ๊บ ออกปั๊บ กลางคืนก็ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย มีอาการปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ ปวดเมื่อยตามข้อ ตามร่างกายง่าย และ “หลอดเลือดตีบตัน” หรือ “หลอดเลือดแข็งได้ง่าย”
นี่ยังไม่รวม เบาหวานอีกนะ เมื่อเห็นผลร้ายขนาดนี้ วิธีแก้ไขง่ายๆเลย
- ทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน เพื่อปรับให้เลือดหายข้น
- ออกกำลังเป็นประจำ ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก
- ลดเนื้อสัตว์ ของทอด ของหวานจัด เพราะ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระปริมาณมากจนทำให้หลอดเลือดตีบตัน
- งดการทานน้ำเย็นเด็ดขาด