ดัชนีฯเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังผู้บริโภคกังวล ส่งออกติดลบ-สงครามการค้ารุนแรง-นักท่องเที่ยวจีนหด-น้ำมันแพง
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.2561 อยู่ที่ 81.3 ลดลงจากเดือนก.ย.2561 ที่อยู่ที่ 82.3 โดยดัชนีฯปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกในเดือนก.ย.2561 ที่ติดลบ 5.2% ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่รุนแรงมากขึ้น และนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง และรู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและกระจุกตัว ในขณะที่ราคาสินค้าเกษตรหลายตัว โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งรู้สึกว่าราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้อำนาจซื้อลดลง แม้ว่าขณะนี้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลงบ้างแล้ว
“ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก”นายธนวรรธน์กล่าว
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 68.4 ลดลงจากเดือนก่อน 69.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 76.5 ลดลงจากเดือนก่อน 77.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 99.0 ลดลงจากเดือนก่อน 100 โดยดัชนีฯที่ต่ำกว่า 100 ดังกล่าว แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก
นอกจากนี้ ดัชนีเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันที่อยู่ที่ 55.6 ลดลงจากเดือนก่อน 56.6 แสดงว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคต ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 92.6 จากเดือนก่อน 93.6 ซึ่งปรับตัวอยู่ใกล้เคียงระดับ 100 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นในอนาคตอันใกล้