ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาคดีรุมโทรมเด็กหญิงอายุ 14 ปี เพิ่มเติมอีก หลังมีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วรวม 8 คน ขณะที่ศาลให้ประกันตัว 2 ผู้ต้อง โดยมีเงื่อนไขห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายผู้เสียหาย
ศาลจังหวัดพังงาให้ประกันตัว นายสุชีพ สุเมนร์ อายุ 55 ปี และนายเฉลิม สามิน อายุ 69 ปี สองผู้ต้องหาคดีรุมโทรมเด็กหญิง อายุ 14 ปี หลังศาลตีราคาประกันคนละ 4 แสน 6 หมื่นบาท โดยญาติใช้วิธีเช่าหลักทรัพย์ประกันตัวของบุคคลอื่น เป็นเงินคนละเกือบ 60,000 บาท เพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาล ก่อนจะอนุญาตให้ปล่อยตัว
โดยนายณัฎฐรัตน์ หนูแก้ว ทนายความฝ่ายผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัว แต่มีเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหาไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายผู้เสียหาย และให้มารายงานตัว ตามนัด โดยมีกำหนดให้มารายงานตัวก่อน 9 นาฬิกา ของวันที่ 21 กันยายนนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน ที่ถูกนำตัวมาฝากขังพร้อมกันวันนี้ ญาติเตรียมหลักทรัพย์ไม่พอ โดยในวันจันทร์ที่ 11 กันยายนนี้ ทนายความจะประสานขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมจังหวัดพังงา ในการให้หลักทรัพย์มายื่นประกันตัวต่อศาลอีกครั้ง
ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องหาในคดีแรก ที่ถูกแจ้งความว่ารุมโทรมเด็กหญิง ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำโดยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโคกกลอย โดยจะนำตัวมาขออำนาจศาลฝากขังในวันจันทร์ ที่ 11 กันยายน โดยจนถึงขณะนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมด ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา // ด้าน พันตำรวจเอก สถิตย์ พรมอุทัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร โคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เปิดเผยกับทีมข่าวไบรท์นิวส์ โดยยืนยันว่าการออกหมายจับ 8 ผู้ต้องหานั้น ตำรวจมีหลักฐานชัดเจน ที่ทำให้ศาลสามารถอนุมัติหมายจับได้ โดยเร็วๆนี้ จะมีการขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ด้านนายเกรียงศักดิ์ สาระภี อดีตทนายความของนายบุญพจน์ นนทรี กล่าวว่า เชื่อมั่นว่านายบุญพจน์บริสุทธิ์ เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 25 พฤษภาคม 2559 ที่ผู้เสียหายบอกว่าถูกรุมโทรมครั้งที่ 4 นายบุญพจน์มีหลักฐานการตอกบัตรทำงาน และมีพยานชัดเจน รวมไปถึงจากคำให้การของเด็กนั้นพบว่า ได้บอกกับแม่ว่าหน้าคุ้นๆเหมือนจะเป็นคนทึ่มาร่วมรุมโทรมเท่านั้น // ซึ่งตนเชื่อว่ามีเหตุการณ์กระทำชำเราขึ้นจริง แต่ไม่น่าจะถึง 40 คนตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ทั้งนี้ยังต้องรอความชัดเจนในการสืบสวนของตำรวจ
ขณะที่สภาพจิตใจของเด็กหญิงผู้เสียหาย พบว่าอยู่ในภาวะเครียดมาก เนื่องจากรู้สึกเเย่ที่คนในหมู่บ้านบอกว่าโกหก โดยเเพทย์เเนะนำว่าไม่ควรให้เด็กกลับเข้าไปอยู่ในพื้นที่ หรือกลับไปจุดเกิดเหตุ ส่วนแม่ของเด็กหญิง เเพทย์ระบุว่าเริ่มเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งทั้ง 2 คน เเพทย์รักษาอาการด้วยยา แต่เเพทย์กังวลเกี่ยวกับอาการของเด็กที่อาจอ่อนไหวจากการเสพข่าว เเละขอให้เจ้าหน้าที่นำเด็กมาพบนักจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาภูเก็ต ได้นำพ่อเลี้ยงของเด็กหญิงผู้เสียหาย ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร สาคู จังหวัดภูเก็ต เพื่อเอาผิดชาวบ้าน 3 คน ที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ทำนองกล่าวหาว่า พ่อเลี้ยงมีอะไรกับลูกเลี้ยง และกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ โดยพ่อเลี้ยงยืนยันว่า สิ่งที่ชาวบ้านกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยทำอะไรที่เกินกว่าความเป็นพ่อ ไม่เคยหอมแก้ม ไม่เคยจับหน้าอก ไม่เคยจับอวัยวะเพศ หากมีหลักฐานให้นำมายืนยัน