ทำแผนไอ้โจ ฆาตกรใจเหี้ยมฆ่าหญิงสาวเพราะอารมณ์กลัดมัน
ตำรวจคุมตัวไอ้โจ ฆาตกรฆ่ารัดคอสาวสกลนคร ทิ้งศพเปลือยกายในหนองน้ำริมถนนสาย 345
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ1, พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี , และตำรวจสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานีแถลงข่าวจับกุมตัว นายพีระพัฒน์ (โจ) คำลุน อายุ 30 ปี ชาวอำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ สีเทา ทะเบียน ผฉ – 172 อุบลราชธานี
คดีฆาตกรรมสาวรัดคอและห่อผ้าห่มสีแดง ริมบ่อถนนสาย 345 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี พบศพเพศหญิง ไม่สวมเสื้อผ้า ลักษณะคว่ำหน้า สืบสวนจนทราบว่าผู้ตายคือ น.ส.มะลิวรรณ
อายุประมาณ 24 ปี พักอยู่ในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี จึงได้ติดต่อกับญาติ ให้ข้อมูลว่า
“ก่อนที่จะพบศพ ผู้ตายมีผู้ชายเข้ามาพูดคุยด้วย และได้ออกไปกับชาย ที่ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบอนท์ ทะเบียน ผฉ-172 อุบลราชธานี หลังกระบะมีตู้ลำโพงพร้อมผ้าใบคลุม จากหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี จนมาสุดปลายทางที่บริเวณพบศพ ตรวจสอบว่า เป็นรถกระบะ ของนายพีระพัฒน์ หรือโจ คำลุน ติดตามจับกุมได้ที่บริเวณห้องพักเลขที่ 40 ม.3ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมรถยนต์กระบะคัน คันที่ใช้ก่อเหตุ สอบปากคำนายโจ ผู้ต้องหาให้การว่า “สาเหตุเกิดจาก ผู้ตายปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์” ทำให้ผู้ต้องหาโกรธและลงมือทำร้ายร่างกาย โดยใช้ผ้ารัดคอผู้ตายจนเสียชีวิต และกลัวความผิดจึงได้นำศพห่อด้วยผ้าห่มและใส่รถทิ้งที่บริเวณคูน้ำริมถนน ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี และหลบหนีไปจนในวันที่ 17 มิถุนายน 2561 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน จับกุม
การทำแผนประกอบคำ รับสารภาพ นายพีระพัฒน์ หรือ โจ คำลุน ใส่หมวกกันน๊อคปิดหน้ามิดชิด ถูกตัวมาทำแผนบริเวณคูน้ำริมถนนอำเภอมือง จังหวัดปทุมธานี โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้นายโจ จำลองเหตุการณ์หลังจากนำรถ รถกระบะวีโก้สีบรอนซ์เงินทะเบียน ผฉ- 172 อุบลราชธานีทะเบียนอุบลธานี นำศพหญิงสาวที่ห่อด้วยผ้าหน่มสีแดงลายการ์ตูนไว้ท้ายรถกระบะ จากนั้นได้อุ้มศพและเอาโยนทิ้งน้ำ ต่อจากนั้นได้นำถุงพลาสติกที่ห่อศพโยนทิ้งในจุดเกิดเหตุด้วย ซึ่งนายโจไม่ยอมปริปากพูดใดๆๆ ทั้งสิ้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบนำตัวนายโจออกไปจากจุดเกิดเหตุทันทีเพราะกลัวว่าจะมีใครโกรธแค้นมาเอาคืน
จากการสอบปากคำนายโจ ผู้ต้องหาให้การว่า “สาเหตุที่ต้องฆาตกรรมผู้ตาย เพราะถูกปฏิเสธการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ทำให้ผู้ต้องหาโกรธและลงมือทำร้ายโดยใช้ผ้ารัดคอจนเสียชีวิต แต่กลัวความผิดจึงได้นำศพห่อด้วยผ้าห่มและใส่รถกระบะไปทิ้งที่บริเวณคูน้ำริมถนน ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโจ มาทำแผนที่หอพักริมคลองใก้ลกับตลาดนกฮูก ถนนซ่อมสร้าง ปทุมธานี และเข้าตรวจสอบลายนิ้วมือและเก็บหลักฐานในห้องพักที่เป็นที่ฆาตกรรมหญิงสาว ซึ่งเป็นจุดที่นายโจพาหญิงสาวมาร่วมหลับนอน โดยที่นี่นายโจ ยอมรับว่าหลังจากส่งเพื่อนชาวลาวคนลง ก็ได้พาหญิงสาวมาที่ห้องพัก และมีเพศสัมพันธ์ระหว่างกัน ขณะร่วมรักตนเองได้ให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายรุก เพื่อสำเร็จความใคร่ โดยการอยู่ด้านบนแต่ฝ่ายหญิงไม่ทำตาม บอกว่าตนเองมีอาการเจ็บต้นขา และเอวไม่สามารถขึ้นได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกสามีเตะทำร้ายร่างกายมา และรู้สึกเจ็บอวัยวะเพศด้วย
นายโจซึ่งเมาสุราจึงเกิดอาการหงุดหงิด ที่อ๊อฟเหยื่อมาแล้ว ทำให้ไม่ได้ดั่งใจ จึงลงมือฆ่าโดยใช้สายไฟแจ็คลำโพงรัดคอ และเห็นว่ายังตายไม่สนิทจึงใช้ถุงพลาสติกคลุมศรีษะเพื่อให้หยุดหายใจ จากนั้นอำพรางศพ มัดใส่ผ้าห่ม เพื่อไม่ให้เลือดตกพื้น จากนั้นได้อุ้มศพขึ้นรถมาคนเดียวแล้วเอาไปทิ้งบ่อน้ำ จากนั้นกลับไปทำงานตามปกติ และถูกจับกุมได้ภายในซอยวัดกู้เขต อ.ปากเกร็ด
ทีมข่าว สัมภาษณ์ เจ้เจ้าของร้านขายของชำที่หอพัก ซึ่งเล่าว่ามีความคุ้นเคยกับนายโจ เพราะจะมาซื้อเอ็มร้อยห้าสิบ และ บุหรี่เป็นประจำ แต่นายโจ ไม่เคยซื้อเหล้าดื่มจึงแปลกใจ เพราะปกตินายโจจะเป็นคนที่อัธยาศัยดี คุยเล่น และชอบเปิดเครื่องเสียงเสียงดังเวลาเข้าและออกหอพัก เมื่อนายโจกลับห้องหรือออกห้องพักจะได้ยินจากเครื่องเสียงที่ดังกระหึ่ม ซึ่งพอมารู้ข่าวว่านายโจ คือฆาตกรฆ่าหญิงสาวรัดคอทิ้งบ่อน้ำก็ตกใจ
ขณะที่มารดาของหญิงสาวที่เสียชีวิตซึ่งบ้านอยู่ที่ดอนเมืองทันทีที่ทราบข่าวก็เดินทางมาดูหน้านายโจ ที่จุดทิ้งศพข้างบ่อน้ำ แต่เข้าไม่ถึง เธอบอกว่าพึ่งพบกับลูกสาวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ไปเยี่ยมลูกที่ฝากไว้ และคุยกันล่าสุดเมื่อ 3 วันก่อนทางโทรศัพท์ ซึ่งไม่มีเค้าลางอะไรบอกเหตุ จนมาทราบว่าลูกสาวถูกฆ่าตาย ซึ่งอยากจะถามนายโจว่าทำไมต้องลงมือถึงขั้นฆ่ากันให้ตายด้วยโกรธแค้นอะไรมากมาย