“ดีแทค” เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ขาดทุน 921 ล้าน พลิกขาดทุนครั้งแรกในรอบ 11 ปี เหตุตัดค่าเสื่อมเสาโทรคนาคม นับถอยหลังประมูลคลื่น 900 MHz 28 ต.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2561 พลิกขาดทุนครั้งแรกในรอบ 11 ปี หรือนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยไตรมาสนี้ขาดทุน 921 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลงเหลือ 7,192 ล้านบาท หรือลดลง 7.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 5.1% จากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีภาระค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงรายการพิเศษจากค่าตัดจำหน่ายที่เป็นผลจากการระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมกับกสท.โทรคมนาคม
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ดีแทคยังมีกำไรสุทธิ 572 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯมีแผนจะใช้เงินลงทุน 1.8-2 หมื่นล้านบาท เพื่อเร่งขยายโครงข่าย
บมจ.หลักทรัพย์ แลนด์&เฮ้าส์ ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2561 ของดีแทค ที่ขาดทุน 921 ล้านบาท หลักๆเกิดจากได้ยอมยุติข้อพิพาทกรรมสิทธ์เสาสัมปทานกับกสท.โทรคมนาคม (CAT) ทำให้เสาภายใต้สัมปทานที่ลงบัญชีเป็นสินทรัพย์ของดีแทค 1,464 ล้านบาท ต้องตั้งด้อยค่าในงวด 3/2561 เพื่อแลกกับสัญญาเช่าเสาไฟเบอร์และอุปกรณ์ 2G, 3G และ 4G ที่ส่งมอบให้ CAT หลังหมดอายุสัมปทาน 15 ก.ย. 2561 เป็นเวลา 8 ปี โดยมีรายจ่ายปีละ 3,100-4,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษหลังหักภาษีสุทธิ ไตรมา 3/2561 ดีแทคยังมีกำไรปกติ 275 ล้านบาท สำหรับการเข้าประมูลคลื่น 900 MHz เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเงื่อนไขการประมูลดังกล่าวอนุญาตให้ดีแทคใช้คลื่น 850 MHz สำหรับบริการลูกค้าเดิมได้ต่อไปอีก 2 ปี ส่วนเงินค่าประมูลใบอนุญาตคลื่น 900 MHz ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาทนั้น จะคิดเป็นค่าตัดจำหน่ายปีละ 2,500 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดีแทค เป็นเอกชนรายเดียวที่ยื่นเอกสารประมูลคลื่น 900 MHz ซึ่งมีราคาใบอนุญาตเริ่มต้นที่ 37,988 ล้านบาท โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) คาดว่า การเปิดประมูลคลื่นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ คาดว่าจะสามารถนำเงินเข้ารัฐได้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท