สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ทรงฉลองพระองค์งามที่สุดในโลก พระองค์ทรงเป็นตัวแทนสุภาพสตรีไทยและตัวแทนประเทศไทย ที่ทรงนำความงดงามตามแบบไทยออกไปเผยแพร่ให้ชาวโลกได้รับรู้และชื่นชม จนเครื่องแต่งกายของไทยได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
เมื่อคราวพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและยุโรปในช่วงทศวรรษที่ 1960 ทั่วโลกต่างสดุดีเช่นเดียวกันว่า “พระราชินีของไทยทรงพระสิริโฉมงดงามที่สุดในโลก”
นิตยสารนิวส์วีก ฉบับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2509 บรรยายถึงพระองค์ไว้ว่า “ผู้มีพระเนตรสีนิล พระเกศาดำขลับ ทรงเปรียบเสมือน แจ็กกี้ เคนเนดี้ แห่งเอเชีย ด้วยความทรงเสน่ห์จนทรงได้รับเลือกเป็นอันดับแรกในฐานะ สตรีผู้ทรงความงามที่สุดในโลก” เพื่อออกอากาศในรายการโทรทัศน์ของสหรัฐ ซึ่งพระองค์พระราชทานสัมภาษณ์ถ่อมพระองค์ เมื่อตรัสว่า “ข้าพเจ้ามิได้คิดว่าตัวเองสวยอะไรนัก”
ส่วนหนังสือพิมพ์ในฮอนโนลูลูตีพิมพ์สดุดีว่า “ทรงมีความงามประหนึ่งตุ๊กตาที่อาจชนะตำแหน่งราชินีแห่งราชินี หากมีการประกวดพระราชินีกันขึ้นทั่วโลก”
ด้วยรัศมีอันเปล่งประกายของพระองค์ จนทำให้นิตยสารอีกหลายฉบับในต่างประเทศลงพระฉายาลักษณ์พระองค์บนปกนำ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม สวีเดน ออสเตรเลีย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเตือนพระองค์ว่า การตามเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ ไม่ใช่เพื่อความสุขสนุกสนาน แต่จะต้องทรงมีพระราชกรณียกิจอย่างหนัก เพี่อให้ชาวโลกได้รู้จักประเทศไทย อีกทั้งฉลองพระองค์ยังต้องสมกับตำแหน่งพระยศที่ทรงดำรงคู่กับพระประมุขประเทศ นอกจากนั้นต้องทรงแต่งให้ถูกกาลเทศะ พร้อมแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอีกด้วย
แม้ในยามเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรในประเทศไทย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินาถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ก็ทรงฉลองพระองค์อย่างงดงาม ซึ่งมีบันทึกเล่าขานว่า ครั้งหนึ่งนักข่าวได้ทูลถามพระองค์ว่า “มักมีคนไม่เข้าใจว่า ในการเสด็จฯ ไปไหน เหตุใดต้องทรงแต่งพระองค์งาม แล้วยังโปรดให้ข้าราชบริพารแต่งตัวสวย ๆ ด้วย” สมเด็จพระนางเจ้า ทรงมีรับสั่งตอบว่า
“อันนี้จริง ฉันเป็นคนที่แก้ไม่หาย พระท่านบอกว่า ยังติดอยู่กับความสวยความงาม แต่ว่าความจริงแล้วเป็นอย่างนั้น ชอบสวยงาม แล้วอีกประการหนึ่ง ชาวบ้านนี่นาน ๆ เขาจะเห็นเราสักทีหนึ่ง โดยมากชั่วชีวิตเขาก็เห็นไม่กี่ครั้งเลย จึงคิดว่าน่าจะพยายามแต่งตัวให้ดี ให้เขาเห็น ให้เขาจำ”