พันธบัตรสหรัฐพุ่งสูงสุดรอบ 7 ปี กดน้ำมันดิบร่วงเกือบ 2 ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบโลกลดลง 1.9 ดอลล์ หลังดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงสุดรอบ 7 ปี “เบรนท์” ปิด 83.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 2.9% นักลงทุนจับตาผลกระทบคว่ำบาตรอิหร่าน-สงครามการค้า

เมื่อคืนวานนี้ (10 ต.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.4% โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนัก โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 831.83 จุด หรือลดลง 3.15%เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นเป็น 3.241% สูงสุดในรอบ 7 ปี และความกังวลในประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงติดตามผลกระทบมาตรการคว่ำอิหร่าน และพายุเฮอร์ริเคน “ไมเคิล” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้รัฐฟลอริดา ทำให้มีการปิดการผลิตน้ำมันเกือบ 40% ในอ่าวเม็กซิโก

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดที่ 73.17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.79 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 2.4% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 83.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.91 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 2.3% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 82.79 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.10 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.001%

นายบ็อบ ดัดลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทบีพี กล่าวว่า ภาวะไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันของอิหร่าน ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านในวันที่ 4 พ.ย. จะสร้างความผันผวนครั้งใหญ่ต่อราคาน้ำมัน

ด้านบมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 11 ต.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 2% หลังตลาดหุ้นในสหรัฐปิดตัวในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปรับลดลงกว่า 3% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ประกอบกับความกังวลต่อนโยบายทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ อิหร่านมีการส่งออกน้ำมันดิบลดลงตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ในขณะที่อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านรายใหญ่รองลงมาจากจีน ได้สั่งซื้อน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียเพิ่มราว 4 ล้านบาร์เรล สำหรับการส่งมอบในเดือน พ.ย. นี้ ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันดิบบริเวณอ่าวเม็กซิโก ลดกำลังการผลิตลง 7.1 แสนบาร์เรล หลังพายุเฮอร์ริเคน “ไมเคิล” เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งฟลอริดา

ด้านสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ต.2561 ปรับตัวสูงขึ้น 9.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ถึง 4 เท่า ในขณะที่กำลังการกลั่นปรับตัวลดลงราว 3.6 แสนบาร์เรล/วัน

บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ว่า ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 73-78 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 83-88 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า