ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงเล็กน้อย ปิดที่ 52.62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อียูตรียมเปิดทางใช้สกุลเงินยูโรซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน ขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เมื่อคืนวันพุธ (23 ม.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 52.62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.39 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.7% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 61.14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.36 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.6%
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับเตือนว่ายังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แจ้งให้บริษัทพลังงานของสหรัฐทราบว่า รัฐบาลสหรัฐจะคว่ำบาตรน้ำมันของเวเนซุเอลาภายในสัปดาห์นี้ หากสถานการณ์ด้านการเมืองในเวเนซุเอลายังคงย่ำแย่
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ให้การรับรองนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติของเวเนซุเอลา ให้ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี พร้อมระบุว่าการที่นายนิโคลัส มาดูโร ยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาในขณะนี้ เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
นักวิเคราะห์จากบริษัทไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สหรัฐสามารถยับยั้งการให้ความช่วยเหลือแก่เวเนซุเอลา ซึ่งรวมถึงการขัดขวางเงินกู้จาก IMF และจะทำให้สหรัฐสามารถคว่ำบาตรประเทศต่างๆที่ทำธุรกรรมกับนายมาดูโร
นักลงทุนจับตาสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้ ขณะที่โพลล์สำรวจนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 600,000 บาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ม.ค.
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24 ม.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมประกาศใช้ระบบกลไกการชำระเงินสำหรับการค้าขายกับอิหร่านผ่านสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่เหรียญสหรัฐในเร็วๆนี้ ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบจากอิหร่านจะปรับลดลงน้อยกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านยังสามารถใช้สกุลเงินยูโรในการซื้อขายได้
ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นำโดยการเพิ่มขึ้นของน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน ( Shale Oil) โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานจะแตะระดับ 8.2 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ก.พ.2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 63,000 บาร์เรล/วันจากเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะปรับลดลง 42,000 บาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศลดลงในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง
ขณะเดียวกัน สหรัฐประกาศยกระดับเพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร โดยการรองรับผู้นำฝ่ายค้านและประธานสมัชชาแห่งชาติ ในฐานะประธาธิบดีแทนนายนิโคลัส มาดูโร และในเร็วๆนี้เตรียมพิจารณาที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลา
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 59-64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล