ราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่อง หลังสหรัฐผ่อนผัน 8 ชาตินำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้อีก 180 วัน หลังวันที่ 4 พ.ย.นี้
เมื่อคืนวันศุกร์ (2 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลดลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสหรัฐผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้หลังวันที่ 4 พ.ย.
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 63.14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.55 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.9% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 72.83 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.06 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.1%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 71.47 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.77 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 2.4%
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 5 พ.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 วัน จากความกังวลว่าอุปทานอาจล้นตลาด หลังจากสหรัฐประกาศผ่อนผันให้จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตุรกี อิตาลี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่นและไต้หวัน นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ในช่วง 180 วัน หลังการคว่ำบาตรในวันที่ 4 พ.ย.นี้
ขณะที่ปริมาณการผลิตจากกลุ่มโอเปกในเดือน ต.ค.2561 ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3.9 แสนบาร์เรล/วัน จากเดือนก.ย.2561 มาอยู่ที่ระดับ 33.31 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดในรอบสองปีโดยปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนบาร์เรล/วัน มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้ ลิเบียและซาอุดิอาระเบีย ปรับเพิ่มกำลังการผลิตรวมกันราว 2.7 แสนบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตจากประเทศอิหร่านยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนล่าสุดได้ปรับลดลงกว่า 1 แสนบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 3.35 ล้านบาร์เรล/วัน
ส่วนรัสเซียปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นต่อเนื่องมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ที่ราว 11.41 ล้านบาร์เรล/วัน หลังกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปกตกลงที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน มิ.ย.2561 เพื่อให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตลดลงไปสู่ระดับ 100%
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 71-76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง คือ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ซึ่งคาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบยังอยู่ในระดับต่ำในช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และปริมาณการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นแตะสูงสุดในรอบ 3 ปี
ในขณะที่อุปทานน้ำมันดิบจากอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังหลายประเทศลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน
รวมทั้งต้องจับตาการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้หรือไม่ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐและประธานาธิบดีจีน เตรียมหารือร่วมกันนอกรอบในการประชุดสุดยอดผู้นำโลก G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายเดือน พ.ย.นี้