ควันหลงจากถ้ำหลวงยังไม่จางหายไปง่ายๆ เพราะหลังจากที่ช่วยเด็กๆ และโค้ชออกมาจากถ้ำหลวงได้แล้ว กระแสข่าวว่าเรื่องราวของ 13 หมูป่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลามที่จะนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ หลายคนก็คงติดตามข่าว ว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะได้เห็นเรื่องราวของทีมหมูป่าโลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์ม และใครจะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
ลิขสิทธิ์หมูป่าเป็นของใคร?
สำหรับประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ ข้อกำหนดทางกฎหมาย เนื้อหาหรือเรื่องราวของข่าวและเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปไม่มีลิขสิทธิ์ไม่มีเจ้าของและไม่ได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ดังนั้นผู้ใดก็สามารถสร้างภาพยนตร์ วีดิทัศน์และแอนิเมชั่น เผยแพร่ได้
กฎหมายใดเกี่ยวข้องบ้าง?
การจะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ผู้ประสบภัยที่ถ้ำหลวงนั้น มีกฎหมายหลายฉบับเข้ามาเกี่ยวข้อง
- พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 หากต่างประเทศสนใจที่จะสร้างภาพยนตร์ ก็ต้องขออนุญาต โดยส่งบทภาพยนตร์ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาตามข้อบังคับของกฎหมายดังกล่าว
- พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ การใช้สถานที่จริงต้องขออนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
- พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 การโฆษณาเผยแพร่สื่อใดๆ เกี่ยวกับเด็กและผู้ปกครอง ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายแก่เด็ก จิตใจ ชื่อเสียง สิทธิประโยชน์ หรือการแสวงหาผลประโยชน์ เพราะจะมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กคุ้มครองอยู่
ใครสร้างหนัง?
ส่วนผู้ที่สนใจทำภาพยนตร์หมูป่านั้น จากการเปิดเผยของกระทรวงวัฒนธรรม ขณะนี้มีผู้ประกอบการไทย และต่างประเทศ สนใจจะผลิตภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ถ้ำหลวงแล้ว 12 โครงการ แบ่งเป็น โครงการของผู้ประกอบการไทย 4 โครงการ โครงการร่วมทุนของผู้ประกอบการต่างประเทศและไทย 6 โครงการและโครงการของผู้ประกอบการต่างประเทศ 2 โครงการ แสดงให้เห็นว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญของโลก และนับว่าเป็นการแสดงความจำนงต้องการผลิตภาพยนตร์พร้อมๆ กันจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตอนนี้รัฐบาลเร่งแต่งตั้งคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อดูแลในเรื่องดังกล่าว เชื่อว่าอีกไม่นานเราคงได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้บนจอเงินอย่างแน่นอน