ผู้ใช้งานเฟซบุ๊คชื่อ Punnabhat Sri แชร์ประสบการณ์การเลวร้ายที่พบเจอหลังถูกตม.เกาหลีปฏิเสธให้ผ่านด่านเข้าประเทศพร้อมกักตัวสอบปากคำนานหลายชั่วโมงก่อนถูกส่งตัวกลับประเทศไทยอย่างไร้เยื่อใย
สาวคนดังกล่าวเปิดเผยว่านี่เป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้พร้อมเพื่อนๆ 6 คน แต่เมื่อถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.เกาหลี) กลับเจอปัญหามากมายโดยเฉพาะการสอบสวนถึงเหตุผลที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ที่กินเวลานานหลายชั่วโมงและสุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้คือเธอถูกตม.เกาหลีส่งตัวกลับประเทศไทยทั้งที่เพื่อน 6 คนก่อนหน้าผ่านด่านตรวจเข้าไปอย่างไร้ปัญหา
ทั้งนี้เฟซบุุ๊ก Punnabhat Sri เปิดเผยรายละเอียดว่าเธอต้องผ่านการตอบคำถามมากมาย ว่าเป็นใคร มาทำอะไร มีเงินเท่าไหร่ หรือจะไปที่ไหน เช่นเดียวกับเอกสารต่างๆก็ต้องเตรียมให้พร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนทั้งหมดต้องผ่านหลายด่านที่แออัดไปด้วยคนไทยที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน นอกจากนี้หญิงสาวคนดังกล่าวยังติติงการทำงานของล่ามไทยที่ ตม.เกาหลี ว่าใช้กิริยาและวาจาไม่สุภาพทั้งตะคอก กระชากเอกสาร รวมถึงคำถามในเชิงลบต่อคนไทยอีกด้วย
หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไปในวงกว้างก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงมาตรการตรวจคนเข้าเมืองอันเข้มข้นของประเทศเกาหลีซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าประเทศไทยถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสส์) ที่ทางตม.เกาหลีจะต้องตรวจเข้มเป็นพิเศษเนื่องจากในอดีตมีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของผู้ใช้แรงงานที่แฝงตัวมาในมาดนักท่องเที่ยว รวมถึงการอยู่พำนักเพื่อลักลอกประกอบอาชีพผิดกฏหมายเกินระยะเวลาที่วีซ่ากำหนด เป็นต้น
จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขที่ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ (อ้างอิงสถิติปี 2559) ระบุไว้ว่ามีคนไทยพำนักอย่างผิดกฎหมาย 52,435 คน คิดเป็น 48.1 % ของคนไทยที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้ทั้งหมด 90,235 คน
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ปี 2558 มีคนไทยถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศทันทีที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง 20,017 คน และอีก 8,733 คน ถูกส่งกลับเนื่องจากถูกจับกุมข้อหาอยู่เกินเวลาที่กำหนดและลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย ทั้งหมดส่งผลให้ไทยมีอัตราการเข้าประเทศเกาหลีผิดกฎหมายสูงที่สุดจึงนำมาซึ่งมาตรการตรวจสอบและปฏิเสธการเข้าประเทศสูงที่สุดเช่นกัน