ส่องสถิติ “ฟรีวีซ่า” เที่ยว 3 ชาติ ทำไมคนไทยไปแล้ว “ไม่กลับบ้าน”   

ยังคงต้องติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

เมื่อทางการไต้หวันเตรียมทบทวนมาตรการยกเว้นวีซ่าหรือ “ฟรีวีซ่า” ให้กับนักท่องเที่ยว 3 ชาติ ซึ่งรวมถึงไทย เบื้องต้นไต้หวันอาจจำกัดการเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า จากไม่เกิน 6 ครั้งต่อปี เหลือ 2 ครั้งต่อปี หลังจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ไต้หวันได้ลดเวลาในการพำนักของนักท่องเที่ยวไทยในไต้หวันเหลือ 14 วันจากเดิม 30 วัน

ทางการไต้หวัน ระบุถึงสาเหตุที่ต้องทบทวนกรณีฟรีวีซ่าว่า เป็นเพราะนักท่องเที่ยวบางส่วนอาศัยช่องทางดังกล่าวเข้ามาลักลอบค้าบริการทางเพศในไต้หวันเพิ่มขึ้นชัดเจน

ไต้หวัน เป็น 1 ใน 3 ประเทศในเอเชีย ที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว รองจากญี่ปุ่นและเกาหลี

โดยเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2559 ไต้หวันยกเว้นวีซ่าเข้าเมืองให้กับนักท่องเที่ยวไทยไม่เกิน 6 ครั้งต่อปี แต่ละครั้งอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน ผลปรากฏว่าในช่วงเดือนส.ค.-ธ.ค.2559 คนไทยเดินทางไปไต้หวันเพิ่มขึ้น 88% และปี 2560 เพิ่มเป็น 2.92 แสนราย เทียบกับปี 2559 ที่มีคนไทยเดินทางไปไต้หวัน 2 แสนราย หรือเพิ่มขึ้น 45%

ข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ของไทย พบว่า ในปี 2560 มีการตรวจพบและจับกุมหญิงไทยที่ใช้ฟรีวีซ่าและเข้าไปค้าบริการทางเพศในไต้หวัน 309 ราย เพิ่มจากปี 2559 ที่มีจำนวน 18 ราย ในขณะที่คนไทยที่ใช้ฟรีวีซ่าเพื่อลักลอบเข้าไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายในไต้หวัน มีจำนวนสะสมหลายหมื่นราย

เช่นเดียวกัน องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) รายงานว่า ในปี 2560 มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น 9.8 แสนราย ทั้งนี้ ปัจจัยหลักๆที่ทำให้คนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเกือบล้านคนต่อปีจากเดิมที่มีไม่กี่แสนคนนั้น ก็มาจากการที่ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทยมาตั้งแต่ปี 2556

ในขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่นล่าสุด (ม.ค.2561) ระบุว่า มีคนไทยอยู่เกินกำหนดวีซ่า (Overstayed) เป็นจำนวนกว่า 6,700 ราย ซึ่งมีทั้งคนที่ลักลอบเข้าไปขายแรงงาน และค้าบริการทางเพศ

ส่วนที่เกาหลีใต้ พบว่าในปี 2560 มีคนไทยเดินทางไปเกาหลีใต้ 4.98 แสนราย โดยสำนักสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่า มีคนไทย 6.5 หมื่นรายอยู่เกินกำหนดวีซ่า ส่วนใหญ่เป็นแรงงานผิดกฎหมาย และมีการลักลอบค้าประเวณี ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย ระบุว่า มีคนไทยอยู่อาศัยในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายสูงถึง 1 แสนคน

แล ดิลกวิทยรัตน์ นักวิชาการด้านแรงงาน ให้สัมภาษณ์ “ไบร์ทออนไลน์” ว่า กรณีคนไทยบางคนอาศัยฟรีวีซ่าท่องเที่ยว เพื่อไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ และไปค้าบริการทางเพศ หรือที่เรียกว่า “โดดวีซ่า” นั้น เป็นปัญหามานานแล้ว แต่ภาครัฐไม่ได้เข้ามาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังนัก เพราะมองว่าไม่ใช่ปัญหาของตัวเอง

“เรื่องโดดวีซ่ามันมีมานานแล้ว เพราะภาครัฐไม่คิดว่าเป็นปัญหาของตัวเอง และมองว่าปัญหานี้เป็นปัญหาของประเทศปลายทางและตัวแรงงาน โดยจะเข้าไปแก้ปัญหาก็ต่อเมื่อเป็นเคสที่ออกสื่อหรือเป็นข่าว”แล กล่าว

แล ยังระบุว่า คนไทยที่โดดวีซ่าเพื่อลักลอบทำงานในเกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น นอกจากจะมีแรงจูงใจว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าทำงานในไทยแล้ว คนเหล่านี้จะต้องมีคอนเน็กชั่นหรือได้รับการรับรองจากคนที่น่าเชื่อที่ทำงานที่นั่นอยู่แล้ว เช่น เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ว่า เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อโดดวีซ่าไปแล้วจะมีงานทำ

“เราเคยคุยถึงการลดค่าหัวแรงงานที่จะไปทำงานที่ไต้หวัน ว่าขอให้ลดเหลือ 2 หมื่นบาทได้ไหม แต่ไม่เคยสำเร็จ เพราะความอุ้ยอ้ายของภาครัฐ การส่งแรงงานถูกกฎหมายไปทำงานที่ไต้หวันทุกวันนี้จึงทำผ่านนายหน้า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อหัวแสนกว่าบาท เพราะต้องกันเงินจำนวนหนึ่งเอาไว้ซื้อตำแหน่งงานว่างด้วย ทำให้การโดดวีซ่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยง” แล ระบุ

แล กล่าวต่อว่า แม้กระทั่งคนที่โดดวีซ่าหรือพำนักอยู่ในประเทศนั้นๆตามระยะเวลาที่วีซ่ากำหนด เพื่อทำงานขายบริการทางเพศ ก็ต้องมีคอนเน็กชั่นเช่นกัน ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆแล้วจะไปค้าบริการทางเพศได้เลย ซึ่งบางคนก็คิดว่าคุ้มกับการเสี่ยง เพราะหากอยู่ได้นานก็จะสามารถหาเงินได้ก้อนโต แต่หากถูกจับได้ อย่างมากก็แค่ถูกส่งกลับประเทศ

 

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า