แฟนคลับร่วมส่งกำลังใจให้ นักแสดงชื่อดัง “เมฆ วินัย” หลังเจ้าตัวไลฟ์สดเผยอาการล่าสุด ถูกลดยาจน “ตุ่มน้ำพอง” ขึ้นซ้ำตามเท้า และลำตัว เจ้าตัวไม่ย่อท้อขอสู้ต่อไป
จากกรณีที่นักแสดงชื่อดัง “เมฆ-วินัย ไกรบุตร” มีตุ่มขึ้นทั่วร่างกาย จนต้องเข้ารักษาอาการป่วยด้วย “โรคตุ่มน้ำพอง” ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ เป็นเวลาหลายเดือน ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าตนเสียชีวิต จนกระทั่งเจ้าตัวต้องออกมาแถลงข่าวอาการป่วย ว่าอาการกำลังดีขึ้นตามละดับ และไม่ได้เสียชีวิตอย่างที่ปรากฏในข่าว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เมฆ วินัย ได้ไลฟ์สดอัพเดตอาการผ่านทางแฟนเพจ ระบุว่า “ตอนนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ เพราะมีตุ่มขึ้นเต็มฝ่าเท้า หลังเท้า มีวงขึ้นตามแขน ตามตัว เนื่องจากถูกลดยา โดยก่อนหน้านี้เคยใช้ยารักษาจำนวน 12 เม็ด ก่อนจะถูกลดให้เหลือ 8 เม็ด และลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนเหลือ 2 เม็ด ทำให้ตุ่มที่เคยหยุดไปกลับมาขึ้นอีกครั้ง เพราะยาที่เคยสะกดมันไว้น้อยลง ถ้าไม่ลดยาก็กลับบ้านไม่ได้”
โดยก่อนหน้านี้ (30 กรกฎาคม 2562) เมฆ วินัย ได้โพสต์ข้อความที่ทำให้แฟนคลับ และผู้ติดตามอดเป็นห่วงไม่ได้ เจ้าตัวระบุว่า “มันดับฝันผมไม่ให้วิ่ง สวมรองเท้าคู่ใจ เพราะจากการลดยาสเตอรอย์ มันขึ้นที่นิ้วเท้า หลังเท้า ต้องมาเล่นเวทแทน การต่อสู้กับมัน ต้องใช้เวลา”
สำหรับอาการป่วยด้วย “โรคตุ่มน้ำพอง” ของเมฆ วินัย ทางด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ (อธิบดีกรมการแพทย์) เปิดเผยว่า “เจ้าตัวป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง มีอาการแสบ ร้อน คันไปทั่ว ตุ่มขึ้นทุกที่ทั่วร่างกาย แม้กระทั่งในปาก ทำให้รับประทานอะไรแทบไม่ได้ จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า ผู้ป่วยมีอาการของโรคในกลุ่มตุ่มน้ำพองคือ “เพมฟิกอยด์” ซึ่งเป็นโรคในกลุ่ม ตุ่มน้ำพองทางผิวหนังที่พบบ่อย และมีอาการคล้ายคลึงกับโรคเพมฟิกัส ที่เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดการทำลายโปรตีนที่ยึดผิวหนังในชั้นหนังกำพร้า และหนังแท้ไว้ด้วยกัน ผิวหนังจึงแยกตัวจากกันโดยง่าย เกิดเป็นตุ่มพองตามร่างกาย”
โดยยาที่ใช้รักษาหลัก คือ ยาทาสเตียรอยด์ จะใช้เป็นการรักษาหลักในผู้ป่วยที่มีตุ่มน้ำเฉพาะที่ กรณีที่ตุ่มน้ำกระจายทั่วร่างกาย การรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทาน หรือร่วมกับยากดภูมิต้านทาน จะช่วยควบคุมโรคได้