“แบงก์ชาติ” คุมปล่อยสินเชื่อซื้อบ้านราคาเกินหลังละ 10 ล้าน-บ้านหลังที่สอง ระบุต้องวางเงินดาวน์อย่างน้อย 20% พร้อมเปิดรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้อง 4-22 ต.ค.นี้ คาดมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.ปีหน้า
นางวจีทิพย์ พงษ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ต.ค.) ธปท.เปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับแนวนโยบายการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยตามเกณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะลดความเสี่ยงเชิงระบบ ไม่กระตุ้นให้ครัวเรือนก่อหนี้เกินตัว ไม่เอื้อให้มีการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ และทำให้คนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเข้าอยู่จริงสามารถซื้อได้ในราคาเหมาะสม
ทั้งนี้ ธปท.จะเปิดรับฟังความเห็นทั่วไปผ่านเว็ปไซด์ธปท.ระหว่างวันที่ 4-22 ต.ค. และในวันที่ 11 ต.ค. จะจัดประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากสถาบันบสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าธปท.จะออกประกาศหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยฉบับใหม่ ได้ภายในเดือนพ.ย.นี้ และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.2562 เป็นต้นไป
สำหรับหลักเกณฑ์ในการกำกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยฯ กำหนดว่าหากเป็นการซื้อที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นกรณีการกู้เพื่อซื้อบ้านหลังที่ 2 ขึ้นไป จะต้องวางเงินดาวน์อย่างน้อย 20% ของมูลค่าหลักประกัน จากเกณฑ์เดิมที่ให้ปล่อยสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด โดยวางเงินดาวน์ 5% ส่วนที่อยู่อาศัยแนวสูง เช่น ห้องชุด หรือ คอนโดมิเนียม ให้วางเงินดาวน์ 10%
นอกจากนี้ ให้นับรวมเงินกู้ทุกประเภทที่ใช้หลักประกันเดียวกัน ในการคำนวนส่วนที่สถาบันการเงินปล่อยกู้ได้ ทั้งเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจ่ายเบี้ยประกันชีวิต สินเชื่อเพื่อการปรับปรุง/ต่อเติม/ซ่อมแซม เป็นต้น จากปัจจุบันนับเฉพาะเงินกู้เพื่อซื้อบ้านเท่านั้น
นางวจีทิพย์ ระบุว่า การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามหลักเกณฑ์ใหม่ จะไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลัง เพราะจะบังคับใช้เฉพาะกับสินเชื่อปล่อยใหม่ และสินเชื่อที่จะ refinance รวมทั้งไม่มีผลกระทบต่อการซื้อบ้านหลังแรก
“สาเหตุที่ต้องมีการปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากการแข่งขันปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มาตรฐานการการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินหย่อนลง ไม่จำเป็นต้องมีเงินดาวน์ก็ขอสินเชื่อได้ ขณะที่พบสัญญาณการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อลงทุนโดยหลังผลตอบแทนที่สูงเพิ่มขึ้น หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและความเปราะบางในระบบเศรษฐกิจการเงินได้”นางวจีทิพย์กล่าว
ปัจจุบันสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในระบบธนาคารพาณิชย์มียอดคงค้าง 3 ล้านล้านบาท โดยมีการปล่อยกู้เฉลี่ย 3 แสนล้านบาทต่อปี ในจำนวนนี้มี 15% เป็นการปล่อยกู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ซึ่งมีราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท และธนาคารอนุมัติวงเงินปล่อยกู้เกิน 80% ของมูลค่าหลักประกันเป็นเงิน 10,000 ล้านบาท
