“ไนท์แฟรงค์” เผยราคาคอนโดกลางใจเมืองกรุงเทพราคาพุ่ง 16% แตะ 2.48 แสนบาทต่อตารางเมตร ขณะที่พื้นที่สุขุมวิทยังครองแชมป์ความนิยมสูงสุดจากผู้ประกอบการ
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ฝ่ายวิจัยอสังหาริมทรัพย์ ไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย) เผยผลสำรวจภาพรวมตลาดคอนโดมีเนียมในกรุงเทพฯช่วงไตรมาส 2 ว่า จากการคาดการณ์มีความเป็นไปได้สูงที่อุปทานคอมโดฯใหม่ในครึ่งหลังของปี 2561 จะเข้าสู่ตลาดกว่าอีก 22,000 ยูนิต หากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ทั้งปี 2561 มีอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาดเกือบ 50,000 ยูนิต ส่วนราคาในครึ่งปีหลังมีโอกาสทำลายสถิติในรอบ 6 ไตรมาสหรือ 1 ปีครึ่ง เนื่องจากอุปทานใหม่มากกว่า 40% อยู่ในพื้นที่ย่านศูนย์กลางทางธุรกิจใจกลางเมืองกรุงเทพ (CBD)
“ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 ยังไปได้ดีในแง่อุปสงค์และราคา ส่วนอุปทานใหม่ที่เข้าสู่ตลาด 8,894 หน่วยนั้น เป็นการปรับตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า 47% เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง” ไนท์แฟรงค์ ระบุ
ไนท์แฟรงค์ ยังเผยด้วยว่า ในส่วนสัญญาณด้านการเลือกพื้นที่ลงทุนของผู้ประกอบการ ค่อนข้างชัดเจนว่าหันมาสนใจพื้นที่รอบ CBD และชานเมืองมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนยูนิตเปิดใหม่ในสองพื้นที่ข้างต้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 6.5% และ 2.2% โดยทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็นแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย โดยเฉพาะสายสีเขียวอ่อน สายสีน้ำเงิน และสายสีเหลือง ไม่ว่าจะเป็นลาดพร้าว พหลโยธิน เพชรเกษม และจรัญสนิทวงศ์
ขณะเดียวกัน เขต CBD พื้นที่สุขุมวิทยังครองแชมป์ความนิยมสูงสุดจากผู้ประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 โดยมีโครงการระดับลักซูรี่เปิดใหม่จำนวน 2 โครงการในทำเลอโศกและเอกมัย รวม 363 ยูนิต
สำหรับยอดขายคอนโดฯในกรุงเทพพบว่า ยอดขายเฉลี่ยของยูนิตที่เปิดขายใหม่อยู่ที่ประมาณ 60% โดยคอนโดขายดีส่วนใหญ่ในไตรมาสนี้อยู่ในโซนรอบ CBD และชานเมือง มียอดขายประมาณ 70% และ 50% ตามลำดับ ซึ่งทำเลที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้ซื้อในไตรมาสนี้ได้แก่ สาทร-ท่าพระ พระราม 9-รัชดา และพหลโยธิน-วิภาวดี
ส่วนภาพรวมด้านราคาเสนอขายต่อตารางเมตรของยูนิตเปิดใหม่ช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 อยู่ที่ 147,800 บาท ปรับตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนประมาณ 5% ด้วยแรงหนุนจากราคาคอนโดใหม่ในเขต CBD ซึ่งเสนอขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ 248,000 บาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว