กรุงพนมเปญ เตรียมนำรถเมล์แอร์ที่ได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น 140 คัน ออกวิ่งให้บริการ หลังจากนำรถเมล์บริจาคจากจีน 98 คัน ออกวิ่งให้บริการแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่โลกออนไลน์วิจารณ์เปรียบเทียบรถเมล์ไทย-กัมพูชา
วานนี้ (23 ก.ย.) สื่อกัมพูชารายงานว่า ในเร็วๆนี้ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เตรียมนำรถเมล์ปรับอากาศที่ได้รับบริจาคจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 140 คัน มูลค่า 8 ล้านเหรียญสหรัฐ ออกวิ่งให้บริการชาวกัมพูชาใน 5 เส้นทาง จากเส้นทางรถเมล์ทั้งหมด 13 เส้นทาง โดยเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นส่งมอบรถเมล์ให้กรุงพนมเปญแล้ว 40 คัน และกำลังจะมีการส่งมอบอีก 100 คัน

นอกจากนี้ เมื่อกลางปีที่แล้ว สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ทางการจีนได้บริจาครถเมล์ปรับอากาศในกรุงพนมเปญ จำนวน 98 คัน และรถบรรทุกกู้ภัย 2 คัน เพื่อขยายการให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะในเมืองหลวงของกัมพูชา



หลังข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป วันนี้ (24 ก.ย.) โลกออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า รถเมล์ที่กรุงพนมเปญนำมาวิ่งให้บริการนั้น มีสภาพใหม่ มีขนาดใหญ่ และเป็นรรถเมล์แอร์ เทียบกับรถเมล์ขององค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ให้บริการในปัจจุบัน ซึ่งมีสภาพที่เก่า ไม่ได้มาตรฐาน และส่วนใหญ่เป็นรถร้อน
ข้อมูลจาก ขสมก. ระบุว่า ปัจจุบัน (31 พ.ค.2561) มีรถประจำทางวิ่งให้บริการในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 458 เส้นทาง รวม 13,942 คัน แยกเป็นรถเมล์ขสมก.ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) 1,543 คัน รถเมล์ขสมก.แบบปรับอากาศ 1,111 คัน รถ PBC (รถเช่า) 117 คัน ส่วนรถร่วมบริการของเอกชนแบ่งเป็นรถร้อน 2,037 คัน รถปรับอากาศ 1,383 คัน รถมินิบัส 907 คัน รถเล็กในซอย 2,089 คัน รถตู้โดยสารปรับอากาศ 4,626 คัน และรถตู้ CNG เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ 129 คัน
สำหรับรถเมล์ของขสมก.ประมาณ 2,600 คัน ส่วนใหญ่มีอายุใช้งานมาแล้ว 26-30 ปี และปัจจุบันมีรถเสียวันละ 290 คัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว ขสมก.ได้เปิดประมูลจัดหารถเมล์เอ็นจีวีปรับอากาศ 489 คัน มูลค่า 4,261 ล้านบาท และผู้ชนะการประมูล คือ บมจ.ช.ทวี (CHO) และ บมจ.สแกนอินเตอร์ (SCN) และนำรถเมล์เอ็นจีวี 100 คันออกวิ่งให้บริการในวันที่ 27 มี.ค.2561 ต่อมาศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้มติคณะกรรมการ ขสมก.ครั้งที่ 15/2560 เรื่อง การอนุมัติผลประมูลที่ให้กลุ่ม CHO-SCN ทำให้ขสมก.ไม่สามารถจ่ายเงินให้เอกชนได้

ส่วนรถเมล์เอ็นจีวีอีก 389 คันที่เดิมเอกชนมีกำหนดส่งมอบในเดือนมิ.ย.2561 นั้น ขสมก.ยังไม่สามารถรับมอบรถเมล์ดังกล่าวได้เช่นกัน จนกว่าศาลฯจะมีคำสั่งออกมา
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บอร์ดขสมก.) กล่าวว่า ในเดือนพ.ย.นี้ ขสมก.จะเสนอแผนจัดหารถเมล์ 3,000 คัน 1.2 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 4ปี (2562-2565) ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ประกอบด้วย
1.รถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 489 คัน ซึ่งได้ผู้ชนะการประมูลแล้วแต่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง 2.การปรับปรุงรถเมล์ฮีโน่ปรับอากาศ เครื่องยนต์เอ็นจีวี 323 คัน วงเงิน 135 ล้านบาท 3.เช่ารถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน 4.เช่ารถเมล์ดีเซลไฮบริด 400 คัน 5.การจัดซื้อรถเมล์ดีเซลไฮบริด 1,453 คัน และ 6.การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (EV) 35 คัน