TOR โครงการ UniNet สกอ. มูลค่า 200 ล้านบาท ส่อล็อกสเปก กำหนดสำนักงานผู้รับงานต้องอยู่ในรัศมี สกอ. 1 กิโลเมตร “พล.อ.โกศล” จี้ “สุภัทร” ถามกรมบัญชีกลาง หากเข้าข่ายต้องสั่งเลิกประมูลและหาตัวคนร่างสเปก เผยบริษัทเดียวได้งานมาเป็น 10 ปี หลังเอกชนร้อง รมว.ศธ.
วันนี้ (19 พ.ย.) พล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาทุจริตภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ตรวจสอบการดำเนินโครงการเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา หรือ ยูนิเน็ต (UniNet) ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เนื่องจากมีบริษัทเอกชนร้องเรียนดังกล่าวเข้ามา โดยการจัดประกวดราคาของโครงการยูนิเน็ต มีบริษัทเข้ารับการประมูล จำนวน 13 ราย แต่มีผู้มายื่นคุณสมบัติเพื่อขอประกวดราคาเพียง 3 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เมื่อมีการประกวดราคาอิเลกทรอนิกส์ หรือ E-bidding แล้วพบว่า เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางที่กรมบัญชีกลางกำหนดเพียง 100,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่งบประมาณของโครงการนี้สูงถึง 200 ล้านบาท จึงมองว่าอาจมีความผิดปกติ มีการล็อกคุณสมบัติของบริษัทหรือไม่
ที่ปรึกษา รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ตนได้หารือถึงข้อมูลและนำข้อกำหนดขอบเขตงาน หรือ ทีโออาร์ มาให้ตรวจสอบ ร่วมกับ ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ซึ่งเท่าที่ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเบื้องต้น พบว่าข้อกำหนดทีโออาร์บางข้อ เขียนเฉพาะเจาะจงเกินไป ฝ่ายกฎหมายจึงแนะนำให้ ดร.สุภัทร สอบถามไปยังกรมบัญชีกลางว่าข้อกำหนดทีโออาร์ที่ สกอ.กำหนดเป็นการล็อกคุณสมบัติหรือไม่ เช่น บริษัทที่เข้ามาประมูลจะต้องมีสำนักงานตั้งอยู่ห่างจาก สกอ.ในรัศมี 1 กิโลเมตร เป็นต้น ซึ่งหากกรมบัญชีกลางแจ้งว่าไม่เข้าข่าย ก็ขึ้นอยู่กับ สกอ.ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เนื่องจากมีการประมูลไปแล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศผู้ชนะการประมูล
“หากกรมบัญชีกลางเห็นว่าการเขียนข้อกำหนดนี้เป็นการล็อคคุณสมบัติ ก็ต้องสั่งยกเลิกการประมูล ซึ่งจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และไปดูว่าใครเป็นผู้เขียนทีโออาร์ให้มีการล็อกคุณสมบัติเช่นนี้ รวมถึงมีใครเกี่ยวข้องในเรื่องนี้บ้าง เพราะเท่าที่ทราบมีเพียงบริษัทเดียวที่ได้งานมาโดยตลอด จึงเท่ากับว่ามีการล็อกคุณสมบัติมาเป็นสิบ ๆ ปี” พล.อ.โกศล