ขอส่งคนสำคัญของเราในแบบของเราเอง เต้นวิ่งว่าว ส่งเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ได้ตั้งจะเล่นหรือล้อเลียน เพียงแค่ทำในแบบของเรา
การสูญเสียเป็นเรื่อวที่น่าเศร้าสำหรับทุกคน แต่หลายคนมีวิธีจัดการ และแสดงออกที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับคำบอกลาที่ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนมันคือการพูดคุยครั้งสุดท้าย เช่นเดียวกับเหตุการณ์หนึ่ง ที่ถูกเล่าโดยเจ้าอของโพสต์ ที่โพสต์เรื่องราวการบอกลาคนสำคัญของพวกเขา ในแบบของพวกเขาเรื่องราวนี้ถูกโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ็กหลายหนึ่ง เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564
เหตุมีอยู่ว่า ทุกคนช่วยกันเก็บของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ต่างคนก็เดินไปที่รถด้วยกัน หันหลังให้ไม่ถึง 15 นาที. อยู่ๆ สัปเหร่อ ก็วิ่งมาหาพวกเรา. ละบอกว่าให้กลับไปบอกลาเอ็มม่าอีกที่หน่อย. ไฟเผาไม่ไหม้ ควันเมรุไม่ออกเลย. พวกเราก็ยัง งงๆกับสิ่งที่เขาบอก เพราะเราก็ล่ำลากันจนหมดทุกอย่างเเล้ว. ญาติเอ็มม่าเดินตามมาอีกคน บอกพวกเราว่า ไปบอกให้เอ็มมันไปดีหน่อยลูกไม่ให้ห่วงอะไรแล้ว. ด้วยความที่พวกเราก็ไม่ได้นึกอะไรเยอะเพราะต่างคนก็บอกลากันหมดแล้วเลยเดินตามไปหน้าเมรุแล้วตะโกนบอกให้ไปดี อย่างห่วง บอกลาต่างๆนาๆ แต่ควันก็ยังไม่ออก. สัปเหร่อ เลยอุทานว่า ทำไมมันไม่ยอมไหม้ว่ะ.? ด้วยความที่เราเป็นคนปากไว. ชอบพูดอะไรเล่นๆกับเพื่อนๆ เล่นพลั้งปากพูดออกมาว่า “อ่ะ! ถ้ายังไม่ยอมไปนี่จะเปิดเพลงวิ่งว่าวให้เต้นละนะ”. ปล. เวลาทำงานกิจกรรม นางจะชอบร้องเพลงนี้นันทนาการทุกงาน. เเล้วสัปเหร่อดันได้ยินสิ่งที่เราพูดออกมา ละบอกว่า เปิดเลยไหมละ เราก็มองว่าเขากำลังเก็บลำโพง เลยบอกว่าเขาเก็บเครื่องหมดเเล้วนิครับ. นางบอกยัง เปิดได้. ไม่ถึงนาที. เพลงวิ่งว่าวเปิดขึ้นแล้วญาติๆกับคนในนั้นก็วิ่งมาบอกว่า เต้นส่งเขาหน่อย. เข้าไปเต้นเลยอขาคงอยากดู. พวกเราก็คนดื้อกันอยู่แล้วไง. วิ่งเข้าไปเต้นโดยที่ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่อยากให้นางไปดี. ผ่านไปเกือบครึ่งเพลงจวนจะจบละ จู่ๆได้ยินเสียงสัปเหร่อตะโกนบอกว่า โห. ควันออกป่องเมรุเต็มเลย สงสัยเขาคงไม่อยากให้เพื่อนเศร้า และหลังจากนั้นไฟก็ไหม ตามปกติ. ยอมรับนะครับว่าพวกเราเป็นคนทะลึ่งจังใร จริงๆ. แต่ นี่คือวิถีที่เราได้อยู่ด้วยกัน. การกระทำมันเป็นแบบนี้จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งใดนะครับแต่ขอส่งคนสำคัญของเรา ในเเบบของพวกเราในความทรงจำ.

สามารถติดตามข่าวสาร และ อัพเดทสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
ข่าวที่น่าสนใจ