สทท. เผย ความเชื่อมั่นผู้ประกอบ การท่องเที่ยว ไตรมาส2 ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากรายได้ติดลบ 100% ไตรมาส 3 ตกงานอีกแสนคน “แอตต้า”ชี้รายได้หาย 1.6 ล้านล้านบาท
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจำนวน 770 ราย ระหว่างวันที่ 10-25 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 12 ซึ่งต่ำกว่าที่ผู้ประกอบการได้คาดการณ์ไว้เมื่อไตรมาส 1/2563 ไว้ที่ 62 สะท้อนถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ถือว่าต่ำกว่าระดับปกติ (100) มากที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2553 หรือในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศอยู่ในภาวะถดถอย มีการออกประกาศห้ามทำการบินเข้าสู่ประเทศไทย และมีการขยายเวลาการปิดน่านฟ้าต่อเนื่อง ตามสถานการณ์การระบาดของโควิดที่ยังคงแพร่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก และยังไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้เดือน เม.ย.2563 ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจนจบไตรมาส 2
สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักไม่แตกต่างกัน เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโรค ส่งผลให้จำนวนการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในประเทศหดตัวลง 99% แหล่งท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องต้องปิดบริการชั่วคราว
สำหรับคาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาส 3/2563 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์อยู่ที่ 37 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการคาดหวังว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวในไตรมาส 3 จะดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 แต่ยังคงคาดว่าผลประกอบการจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมากที่สุด โดยมาตรการเข้มงวดต่างๆ ที่รัฐบาลใช้เพื่อควบคุมการระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ไม่มีการระบาดในประเทศ ได้ทยอยผ่อนคลายความเข้มงวดลง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยคาดการณ์จำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีจำนวนและรายได้จากต่างชาติเท่ากับศูนย์ ติดลบ 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนตลอดปี 2563 คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 8.5 ล้านคน ติดลบ 78% สร้างรายได้น้อยกว่า 500,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการประเมินผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจส่วนใหญ่ปิดกิจการชั่วคราว 65% ของธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหมด เกิดการว่างงานของแรงงานในภาคท่องเที่ยวกว่า 2.6 ล้านคน นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังคาดว่าจะปรับลดพนักงานในธุรกิจลงอีก 30% จึงคาดว่าในไตรมาส 3 จะมีผู้ว่างงานเพิ่มอีก 100,000คน
“หากไม่มีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เห็นชัดเจนเลยว่า อนาคตข้างหน้าลำบากแน่นอน เพราะผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้หรือแหล่งเงินทุนมาเยียวยาธุรกิจตัวเองได้ แม้จะมุ่งกระตุ้นตลาดไทยเที่ยวไทยมากแค่ไหน แต่ทั้งปีนี้สร้างรายได้ไม่น่าจะเกิน 6 แสนล้านบาท” ประธาน สทท.กล่าว
นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า หลังจากผ่านไป 6 เดือนนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สถานการณ์ธุรกิจนำเที่ยวขาเข้า (อินบาวด์) ยังคงย่ำแย่ แม้ว่ารัฐบาลจะผ่อนคลายอนุญาตให้ชาวต่างชาติบางกลุ่ม เช่น แขกรัฐบาล นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค และอื่นๆ แต่มีสัดส่วนเพียง 5% ของชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 95% คือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่ได้อนุญาตให้เดินทางเข้าไทย
“แอตต้าคาดการณ์ว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่เกิน 10 ล้านคน แต่ถ้ารัฐบาลยังไม่มีมาตรการกระตุ้นตลาดต่างชาติเที่ยวไทย อาจเหลือเพียง 8 ล้านคนซึ่งสร้างรายได้ท่องเที่ยวราว 400,000 ล้านบาท เท่ากับว่ารายได้ตลาดต่างชาติเที่ยวไทยปีนี้จะหายไปถึง 1.6 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ปี 2562 ซึ่งปิดที่ 2.2 ล้านล้านบาท”
ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลเร่งพิจารณาแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ ทราเวลบับเบิล จับคู่เจรจากับประเทศที่มีความเสี่ยงโควิด-19 ต่ำ และมีการกำหนดโปรแกรมท่องเที่ยวแบบตายตัว มีมาตรการควบคุมดูแล และมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ติดเชื้อโควิด ซื้อประกันก่อนเดินทาง พร้อมตรวจหาเชื้อซ้ำที่ไทยอีกครั้ง เพื่อเปิดทางให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยได้ทำมาหากิน ให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจ