รู้จัก สุริยา นวลเจริญ หรือ นายอ๋อง หัวหอกสำคัญในขบวนการ หาคนมารับผิดแทนครูจอมทรัพย์ และสร้างพยานเท็จในการขอรื้อฟื้นคดีอาญากรณีครูจอมทรัพย์
นายสุริยา อายุ 54 ปี หรือ นายอ๋องซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของครูจอมทรัพย์ และเป็นบุคคลสำคัญที่มีหลักฐานว่าเป็นคนจัดตั้งขบวนการรับจ้างทำผิดในคดีครูจอมทรัพย์ พฤติการของนายอ๋องคนนี้ ก็เริ่มตั้งแต่
– ขณะที่มีคดีความ นายสุริยา หรือ ครูอ๋อง ได้ให้ นายสมจิตร หรือวิจิตร คำลือชัย ติดต่อหา นายสับ วาปี ให้ช่วยรับว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร เฉี่ยวชนนายเหลือ พ่อบำรุง ถึงแก่ความตาย
– หลังศาลฎีกาพิพากษากลับตามศาลชั้นต้นสั่งจำคุกนางจอมทรัพย์เข้าเรือนจำกลางนครพนม เพียง 2 วันนายสุริยา ก็เป็นคนที่ มาขอกับพ.ต.ท.จิตติ์ โยหะมุกดาธนพงศ์ อดีต สว.มุกดาหาร ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเก่า และก็มีคนนับหน้าถือตา เพื่อที่จะขอคำปรึกษาเรื่องการขอรื้อฟื้นคดีอาญา ซึ่งนายอ๋องได้นัดนายสับ วาปีมาด้วย ซึ่งคราวนั้นครูอ๋องอ้างว่า นายสับเป็นคนขับรถตัวจริง แต่อดีตสว.สอบถามนายสับสารภาพกับสว.จิตติ์ ว่าถูกครูอ๋องขอร้องให้ช่วยซึ่งสว.ก็เตือนว่าให้การเท็จมีโทษอาจแรงกว่าครูจอมทรัพย์ ดังนั้นนายสัปจึงปฎิเสธไป
– เมื่อสับวาปี ปฎิเสธ นายอ๋องคนนี้ ก็เปลี่ยนเป้าหมาย โดยไปเจรจากับ นายเสริฐ รูปสะอาด อดีตลูกน้องเก่า ว่าจ้างให้นายเสริฐ รับเป็นคนขับรถ และวางแผนว่านายสับได้ขายรถให้นายเสริฐ โดยนายเสริฐมารับเป็นคนขับแทน โดยว่าจ้างเป็นเงินให้นายสับ เบิกความเท็จ ซึ่งนายสับและนายเสริฐตอบตกลง
– เมื่อลงตัวแล้ว วันที่ 23 ธันวาคม 2556 นายสุริยา ก็เดินทางไปแจ้งต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เรณูนคร เพื่อขอดำเนินการรื้อฟื้นคดีโดยมีนายเสริฐ รูปสะอาด สมอ้างเป็นผู้กระทำความผิด พร้อมกับพานายประเสริฐ ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ขับขี่ตัวจริงมาแจ้งความในฐานะเป็นผู้ขับขี่รถชนนายเหลือ ถึงแก่ความตาย
– จากนั้นไม่กี่วัน นายอ๋องก็ได้โทรมาขอโทษ พ.ต.ท.อดิศักดิ์ และแจ้งว่านายเสริฐไม่ใช่คนขับรถที่แท้จริง แต่ผู้ที่ขับรถที่แท้จริงคือ นายสับ วาปี ที่เปลี่ยนดังนี้ก็เพราะไปรู้ว่า นายเสริฐที่พร้อมจะรับสมอ้างดันขับรถไม่เป็น
– นายอ๋อง เป็นคนที่มาเจรจากับนายสับ อีกครั้งว่านายเสริฐขับรถไม่เป็น ไม่มีใบขับขี่ จึงขอร้องให้นายสับช่วยรับสมอ้างเป็นผู้ขับรถชนนายเหลือถึงแก่ความตาย โดยจะให้ค่าจ้าง 4 แสนบาท แต่มีเงื่อนไขว่าจะให้หลังศาลรับฟ้อง นายสับตกลงจึงได้นัดหมายกันมาลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานที่ สภ.นาโดน
– และเพื่อให้สมจริงว่านายสับเป็นคนขับตัวจริง นายอ๋องก็เป็นคน ที่นำเงินจำนวน 170,000 บาท มอบให้นายสับไปจ่ายให้กับญาตินายเหลือ ในฐานะที่เป็นผู้ขับชน โดยวางเงินดังกล่าวที่ศาลจังหวัดนครพนม
–นายสับ วาปี เล่าว่า นายสุริยาหรือครูอ๋องเป็นผู้มารับเขาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ที่เกิดเหตุ ในการสอบปากคำและนำชี้ที่เกิดเหตุ ซึ่งก่อนหน้านั้นครูอ๋องได้พานายสับไปซักซ้อมการนำชี้ที่เกิดเหตุประมาณ 3 – 4 ครั้ง
– และนายอ๋องคนนี้ก็เป็นผู้ที่ประกาศในเฟสบุ๊คส่วนตัวตามหา รถโตโยต้าสีเขียว ทะเบียน บค.56 มุกดาหาร เมื่อปี 2558 เพื่อมาใช้ในการสร้างหลักฐาน ซึ่งมีสีและลักษณะใกล้เคียงกับรถ ทะเบียน บค.56สกลนคร ที่คาดว่าเป็นรถเกิดเหตุ
จะเห็นได้ว่าในขบวนการนี้ นายสุริยา หรืออ๋อง ทุ่มสุดตัว เรียกว่าเป็นพ่องานในขบวนการช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ จนมีการตั้งข้อสังเกตุว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ตัวละครหลักอย่างครูอ๋อง อาจมีความเกี่ยวข้องกับครูจอมทรัพย์ ในฐานะหุ้นส่วนทางธุรกิจ
นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะที่ติดตามค้นหาข้อมูลในเรื่องนี้ในเชิงลึก และเป็นคนที่ออกมาสวนกระแสสังคมเมื่อครั้งที่เสียงส่วนใหญ่เทไปในฝ่ายของครูจอมทรัพย์ จนถูกกดดันอย่างหนัก วันนี้เขาได้ฝากให้สังคมตั้งข้อสังเกตุถึงความไม่ชอบมาพากลของขบวนการช่วยเหลือครูจอมทรัพย์