วันนี้ ( 7 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายสวัสดิ์ แสงบางปลา จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาคดีดำ อ .2438/60 ที่พนักงานอัยการคดี เป็นโจทก์ฟ้องรศ.ดร.หรือ นายสวัสดิ์ แสงบางปลา
อายุ 80 ปีอดีตประธานกก.ดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ฯ
กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ม.ค.59 – 9 มิ.ย.60 ต่อเนื่องกัน จำเลยอาศัยตำแหน่งประธานฯ สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ โดยชักชวน หลอกลวง ประช่าชนให้มาลงทุน อ้างว่า จำเลยได้รับโควต้าหรือการจัดสรรคัดเลือก เป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยให้ จำเลย กู้ยืมเงินไปซื้อสลากตามโควต้าที่ได้รับจัดสรรเพื่อไปจำหน่ายเอากำไรต่อ
โดยจะได้ค่าตอบแทนร้อยละ 1ต่อเดือน ของจำนวนเงินที่ให้กู้ยืม หรือร้อยละ 12 ต่อปี และเดือนสุดท้ายจะได้รับผลตอบแทนคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยทั้งที่ไม่เป็นความจริง จนมีประชาชนหลงเชื่อจำนวนมากนำเงินมาลงทุนทั้งสิ้น 183,730,000 บาท ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา 341,343 ,พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (จนท.ราชทัณฑ์ ที่ห้องพิจารณา 911 อยู่ระหว่างการพิจาณราของศาลศาลนัดตัดสินคดี สวัสดิ์ บางปลา โกงสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬา ฯ
ล่าสุด ศาลพิเคราะห์ คำรับสารภาพจำเลยประกอบพฤติการณ์การกระทำผิดแล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343 และ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4,5,12 การกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงลงโทษฐานการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นบทหนักสุดให้ลงโทษ ทุกกรรมกรรมละ 5 ปี จำเลยรับสารภาพลงโทษเหลือกรรมละ2ปี6เดือน การกระทำจำเลยเป็นความผิด100 ครั้ง คงลงโทษจำคุกจำเลย ทั้งหมด 200 ปี 600 เดือน และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย 100 ราย พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายโดยกำหนดค่าเสียหายแต่ละรายแตกต่างกัน ตั้งแต่ 3ล้านบาทเศษ-39ล้านบาทเศษ ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีที่ศาลแขวงพัทยานั้นให้ยกเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นอันยุติไปแล้ว
คดีนี้เกิดขึ้นช่วงต้นเดือน ม.ค. 59 – 9 ม.ย 2560 โดยสมาชิกผู้เสียของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ที่ได้ชวน ให้นำเงินไปลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่ ที่ตั้งขึ้นมา และอ้างจะให้เงินปันผลสูง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ตามที่กล่าวอ้างไว้ ซึ่งความเสียหายในคดีนี้เบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 541 ล้านบาท ผู้เสียหาย 78 คน
หากย้อนดูพฤติการณ์ฉ้อโกงจะเหมือนขบวนการโกงทั่วๆ ไป คือ อ้างกับสมาชิกว่า จำนำเงินมาร่วมลงทุนโควตาลอตเตอรี่ จะให้ผลตอบแทน 1% ต่อเดือน ช่วงแรก ดร.สวัสดิ์ ผู้ต้องหา จะนำเงินที่ได้มาหมุนจ่าย ผลตอบแทนคืนให้ทุกรายสร้างความน่าเชื่อถือว่าได้ผลตอบแทนจริง และในขณะนั้น ยังเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาฯ อยู่ด้วย เมื่อสมาชิกหรือเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะระดมเงินลงทันมากขึ้น บางรายถอน เงินฝากจากสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาฯ บางราย ถึงกับกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาฯ ออกมาลงทุนกับ ดร.สวัสดิ์ หลังจากที่ได้เงินจำนวนมากก็เชิดเงินหนีไป มีผู้เสียหาย 78 คน มูลค้าประมาณ 541 ล้านบาท
โดย ดร.สวัสดิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ว่า ได้หลอกให้ร่วมลงทุนจริง แต่ไม่มีการลงทุนจริงในอสังหาริมทรัพย์ แต่นำเงินไปเล่นการพนัน
สำหรับ รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา มีชื่อเสียงในวงการสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย เคยเป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด (สอ.จฬ.) และเคยเป็นประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้รับรางวัลนักสหกรณ์แห่งชาติ รางวัลเชิดชูเกียรติฯ จากประชาคมสหกรณ์
นอกจากนี้ยังเป็นบุคลที่ได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล ไปศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ ที่ต่างประเทศ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ขณะที่จบปริญญาตรีเกียรตินิยม สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา ถูกจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยหลอกลวง อาจารย์มหาวิทยาลัย, บุคลากรจุฬาฯ ที่มีทั้งหมอ วิศวกร
