วานนี้ (4 ส.ค.) เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคใต้ นำโดย นายประทบ สุขสนาน (ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ตอนกลาง) และ นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน (ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย) เป็นเจ้าภาพเร่งเปิดเวทีเสวนาแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ หลังจากในวันนี้ร่วงลงมาอย่างหนัก โดยน้ำยางสดเหลือกิโลกรัมละ 31-33 บาท หรือขณะนี้ราคา 3 กิโล ไม่ถึง 100 บาทแล้ว แต่หากเป็นสหกรณ์อาจรับซื้อในราคาที่สูงกว่าคือ กิโลกรัมละ 34-35 บาท
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย (ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์) กล่าวว่า ปัญหาราคายางพาราตกต่ำในขณะนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะดูแลกระทรวงเกษตรฯ ก็อยากเร่งทำนโยบายประกันรายได้ออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อพยุงฐานะของเกษตรกร เพราะบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของรายละเอียดว่า ใช้เงินเท่าไหร่ ตัวเลขประกันรายได้เท่าไหร่ การระบุตัวเกษตรกรจะทำอย่างไร มีกลไกกระบวนการอย่างไร เพื่อมิให้มีการทุจริตเกิดขึ้น
ประการสำคัญเรื่องที่เกษตรกรกังวลว่า อนาคตยางพาราจะไปอย่างไร ซึ่งหลายคนก็กังวลเพราะว่าโครงสร้างตลาดเปลี่ยน เนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ขณะนี้ใช้ทุนตัวเองมาตั้งบริษัท และซื้อควบรวมบริษัท ซึ่งเดิมเป็นของคนไทย เกรงว่าจะเกิดการกดราคาในอนาคต จะทำให้ผลเสียตกแก่เกษตรกร รวมถึงสถาบันเกษตรกร จนขณะนี้มีการพูดกันด้วยซ้ำว่า 5 เสือในวงการยางจะเหลือ 2 ตัวครึ่ง หรือ 2 ตัว ที่เหลือกลายเป็นบริษัททุนจีน ซึ่งจะเกิดผลเสียระยะยาว ดังนั้น เรื่องนี้รัฐบาลไทยต้องชัดเจนและเร่งแก้ปัญหา
ด้าน นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ตอนกลาง กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำยางพาราลดลงเหลือ กก.ละ 33-34 บาท ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างมาก หากปล่อยให้ปัญหานี้ไปถึงปลายปี จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม เพราะสถาบันเกษตรกรที่รับแปรรูปยาง กำลังขาดทุนหนัก และอาจทำให้สหกรณ์ต่างๆ ล้มลงทั้งระบบ