รถเก๋งเสียหลักพุ่งชนต้นจามจุรี เพลิงลุกไหม้เผาทั้งเป็น ตร.คาดขับรถเร็ว อาจหลับใน (คลิป)

เมื่อกลางดึกวันที่ 16 เม.ย. ร.ต.อ.อนุวัฒน์ วัฒนกรการุณย์ รองสอบสวน  สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนกับต้นไม้จนเกิดเพลิงลุกไหม้และมีผู้เสียชีวิต บนถนนสายเลี่ยงเมืองหมายเลข 126 แยกบ้านกร่างมุ่งหน้าแยกเอ็กซ์เรย์ หมู่ 5 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับชั้น แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย

พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน และประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลพลายชุมพล อบต.บ้านกร่าง จำนวน 3 คัน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณร่องกลางถนนพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์- เงิน ทะเบียน กล 9707พิษณุโลก ด้านหน้าชนอัดกับต้นจามจุรีขนาดใหญ่จนพังเสียหายยับเยิน ส่งผลทำให้มีไฟลุกไหม้จากห้องเครื่องอย่างหนักจนลุกลามไปทั่วทั้งคัน เจ้าหน้าที่ต้องรีบช่วยกันลากสายยางเข้าระดมฉีดน้ำนานกว่า 20 นาที เพลิงจึงสงบลง

จากการตรวจสอบภายในห้องโดยสารพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย เป็นผู้ชาย 1 ราย อยู่ที่เบาะนั่งฝั่งคนขับ ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้หญิง นั่งอยู่ที่เบาะข้างกัน สภาพศพถูกไฟคลอกทั่วตัวจนไหม้เกรียมเป็นแผลพุพองจำเค้าใบหน้าเดิมไม่ได้กู้ภัยจึงใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดนำร่างออกมาให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ก่อนส่งไปเก็บรักษาที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

  นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นด้านท้ายรถคันดังกล่าว พบเอกสารหลักฐานซึ่งถูกไฟไหม้ไม่ทั้งหมด ระบุชื่อคือนายกิตติพันธ์ วันเสน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 6 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ขณะนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ติดตามไปที่บ้านว่าเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตอย่างไร

ต่อมา เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันเดียวกัน มีนายกฤษณะ อ่อนพรหม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 12 ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เดินทางมาขอดูศพผู้เสียชีวิตที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมให้การว่า ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายกิตติพันธ์ วันเสน อายุ 22 ปี และ น.ส.สิริมา พานเชื่อง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของตนเอง  ฝ่ายชายทำงานเป็นรองผู้จัดการร้านสะดวกซื้อเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาวัดจุฬามณี
ส่วนฝ่ายหญิงทำงานเป็นรองผู้จัดการร้านสะดวกซื้อเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาบ้านกร่าง จ.พิษณุโลกก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนกันกับกลุ่มเพื่อนฝูงไปเที่ยววันสงกรานต์ที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ กระทั่งช่วงค่ำจึงขับรถกลับมาส่งลูกสาวที่ อ.วังทอง และระหว่างเดินทางกลับเข้าหอพักที่อยู่แถวย่านมหาวิทยาลัยนเรศวร จึงมาประสบอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว เมื่อตนเองเห็นเลขทะเบียนรถยนต์จากในสื่อโซเชียล จึงจำได้ว่าเป็นรถของเพื่อนกับแฟนสาว พร้อมเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะติดต่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานคาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะขับรถมาด้วยความเร็วสูง หรืออาจจะเกิดวูบหลับใน จนรถเสียหลักพุ่งตกลงไปในร่องกลางถนน แล้วไปชนกับต้นจามจุรีทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วร่างทั้งคู่ติดอยู่กับซากรถหนีออกมาไม่ได้ถูกเพลิงเผาตายทั้งเป็นอย่างสยดสยอง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป