โหรวารินทร์ ย้ำคำทำนาย ระบุหมดเวลากลุ่มอำนาจเก่า ระบุรัฐบาล คสช. ยังทำหน้าที่ต่อไปอีกยาว ในขณะที่บ้านเมืองกำลังก้าวสู่ยุคศิวิไลซ์ ส่วนบุญทรงก้มหน้ารับกรรมตามที่สร้างมา
ที่วิหารหลวงปู่เกวลัน ในหมู่บ้านสุขิโต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือฉายา “โหร คมช.” ได้เปิดวิหารให้สัมภาษณ์ยืนยันคำทำนายของหลวงปู่ที่เคยทำนายไว้เมื่อ 2ปีก่อนว่า ยังเป็นไปตามคำทำนายของหลวงปู่ ที่ระบุว่าหมดเวลาของกลุ่มอำนาจเก่าไปแล้ว ส่วนที่มีผู้ทำนายว่า จะมีนารีขี่ม้าขาวเข้ามานั้น ดูแล้วไม่ใช่ เพราะเวลานี้ยังเป็นหน้าที่ของรัฐบาล คสช. และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ว่าตามเจตนาของท่านจะไม่อยากทำหน้าที่ แต่ด้วยหน้าที่ที่ถูกกำหนดมาท่านจะยังทำหน้าที่ต่อไปอีกยาว
ทั้งนี้คำทำนายเมื่อ 2 ปีก่อน ก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนแล้วตามคำทำนาย ทั้งการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้หนีออกนอกประเทศ อำนาจเก่าจึงหมดสิ้นไป เหลือแต่เป็นหน้าที่ขอรัฐบาล คสช.ที่จะประคับประคองชาติบ้านเมืองให้เดินหน้าสืบต่อไป ยุคนี้จึงถือเป็นยุคที่บ้านเมืองมีระเบียบแบบแผน ข้าราชการ สถาบัน และผู้ที่อยู่ในบ้านเมืองจะได้รับความเป็นธรรม ดังที่หลวงปู่บอกว่าจะเป็นยุคศิวิไลซ์อย่างแท้จริง
ส่วนสถานการณ์ของบ้านเมืองก็จะเดินหน้าไปตามโรดแมป แต่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ปัจจุบันบ้าง ขณะที่การเลือกตั้งอาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในปี 2561 ซึ่งการเลือกตั้งจะต้องปรากฎขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับเหตุความวุ่นวายต่างๆ ของประเทศได้ผ่านพ้นไปแล้ว ถือว่าวิบากกรรมของชาติบ้านเมือง ผู้ที่ก่อกรรมกับชาติได้จบสิ้นไป ปัจจุบันกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ได้พยุงความเป็นธรรมให้กับคนในชาติ ผู้ที่ทำผิดย่อมได้รับผิดตามกระบวนการทางกฎหมาย
โหรวารินทร์ ยังกล่าวถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศว่า ก็เกิดขึ้นทั่วโลกไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศเรา รัฐบาลเองก็พยายามลงมาแก้ไขปัญหา แต่ต้องใช้ระยะเวลา เพราะปัญหาบางเรื่องสะสมหมักหมมมานาน จึงต้องให้เวลารัฐบาลได้ทำงาน
ส่วนกรณีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น โหรวารินทร์ กล่าวว่า คดีความที่ถูกตัดสินไปแล้ว ทุกคนก็ต้องรับกรรมตามที่ตนเองได้สร้างมา ตามความยุติธรรมของบ้านเมืองที่กำหนดไว้ จะมีการลดหย่อนโทษหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่การประพฤติปฎิบัติของผู้ที่ได้รับผล คงต้องใช้เวลา แต่ทุกคนที่ผิดได้เสวยกรรมแล้ว
โหรวารินทร์ ยังกล่าวย้ำว่า อดีตนายกรัฐมนตรีตระกูลชินวัตรที่หนีออกนอกประเทศคงไม่ได้กลับมา เพราะหมดเวลาของท่านทั้งสองไปแล้ว
ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียลเสนอชื่อว่าตนเองเป็นผู้เปิดทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนี ว่า ไม่ค่อยเข้าใจสื่อประเทศไทย ว่าตนเองไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย ตนไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ และไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนั้น การที่สื่อชอบถามแบบนี้ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับประเทศไทย และจะให้เจ้าหน้าที่ดูเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กล่าวหา