จากกรณีคนร้ายก่อเหตุขโมยรถกระบะของครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่แจ้งหาย ล่าสุด ตำรวจรือเสาะบุกยึดรถกระบะแจ้งหายที่ดัดแปลงเตรียมประกอบคาร์บอมบ์ได้แล้ว
รถกระบะโตโยต้า สีดำ ทะเบียน บ 2833 นราธิวาส จอดทิ้งไว้อยู่ที่หน้าบ้านร้างเลขที่ 44/2 บ้านกอตอ ม.5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรรือเสาะ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จึงเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบรถคันดังกล่าว ซึ่งป้ายทะเบียนตรงกับรถกระบะของ นายสำราญ ไทยทองนุ่ม ครูโรงเรียนอนุบาล ซึ่งได้แจ้งหายไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะจอดไว้หน้าร้านคาร์แคร์ 2009 ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายสำราญ ที่ได้เปิดบริการล้างอัดฉีดรถยนต์เป็นรายได้เสริม
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ นายซือลันต์ ดอคอ อายุ 30 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านร้างเพียงลำพัง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่แสดงอาการมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามว่า รถกระบะคันดังกล่าวเป็นของใครโดย นายซือลันต์ บอกว่า มีคนชื่อ “กอเซ็ง” ไม่ทราบนามสกุลและเพื่อนอีก 2 คน ได้นำมาจ้างพ่นสีใหม่จากสีฟ้าเป็นสีดำในราคา 500 บาท พร้อมให้ยาบ้าอีก 4 เม็ด เป็นค่าตอบแทน ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวเป็นของใครไม่ทราบ และจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ้านร้างหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบฝากระบะท้ายของรถกระบะ ถูกนำไปทิ้งไว้ที่บริเวณป่ารกทึบหลังบ้านร้างประมาณ 20 เมตร และมีร่องรอยการนำป้ายทะเบียนหลังไปตัดทิ้งไว้ใกล้จุดดังกล่าวด้วย จากนั้นได้ตรวจสอบในห้องโดยสาร พบว่า ช่วงเบาะนั่งข้างคนขับมีการดัดแปลงเป็นที่ว่าง คล้ายลักษณะเตรียมนำระเบิดแสวงเครื่องไปติดตั้ง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จึงได้ตรวจและเก็บคราบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอภายในห้องโดยสาร เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับบุคคลในแฟ้มคดีความมั่นคงว่าเป็นใคร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายซือลันต์ ไปตรวจค้นที่บ้านพัก เพื่อหาหลักฐานต่าง ๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับรถกระบะคันดังกล่าวแต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว นายซือลันต์ ไปสอบสวนขยายผลที่ฐานปฏิบัติการย่อยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ในพื้นที่ อ.รือเสาะ ว่ามีใครเกี่ยวข้อง และรู้เห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมทั้งได้ประสานเจ้าของรถกระบะให้มารับรถ
ด้าน พ.ต.อ.จรัส เส็มสัน ผกก.สภ.รือเสาะ เปิดเผยว่า โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดรถกระบะคันดังกล่าวเอาไว้ได้ ซึ่งคนร้ายเตรียมนำไปประกอบระเบิดเพื่อก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหลังจากเจ้าของรถได้แจ้งหาย ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานผู้นำชุมชนทุกพื้นที่จนทราบเบาะแส และตรวจยึดมาได้ในที่สุด