แพทย์ชนบท เตือน โควิดกำลังขาขึ้น นักวิชาการหวั่นเกิดวิกฤติกบต้ม การระบาดจะลามขยายตัว หลังหลายหน่วยงานเริ่มเข้าเกียร์ว่าง
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจถึงสถานการณ์โควิดในปัจจุบันที่มีความน่าเป็นห่วงเนื่องจากกำลังเป็นขาขึ้นของโควิด โดยทางเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า
โปรดให้ความสนใจ และตื่นตัว ระมัดระวังวันนี้บวกเพิ่ม 10,817 ราย แต่ดูให้ดีๆ…
การตรวจหาเชื้อมี2วิธี วิธีมาตรฐาน RT-PCR พบผู้ติดเชื้อ 10,817 ราย แต่ข้างล่างยังตัวเลขการตรวจด้วย ATK พบเชื้ออีก10,055 ราย รวมแล้วเป็นกว่า 2 หมื่นราย ในจำนวนATKบวก ไม่ได้ตรวจยืนยันด้วย rt-pcr ทุกราย จำนวนผู้ติดเชื้อกำลังขาขึ้นอีกครั้งอย่างชัดเจนแล้ว
ผู้ป่วยหนักยังร่วม 3 พันราย ถือว่ายังไม่ลด ซึ่งสอดคล้องจำนวนผู้ติดเชื้อ ปกติป่วยสีแดงราว 10% หากคำนวณ 3,000 รายนี้กลับไป เราน่าจะมีผู้ติดเชื้อราวไม่ต่ำกว่าวันละ 30,000 คน ในขณะที่ยอดการตรวจเชิงรุกลดลง หากตรวจมากขึ้นในหลายพื้นที่อัตราการติดเชื้อในชุมชนสูงมาก กว่าร้อยละ20
โควิดกำลังขาขึ้น พื้นที่สีแดงกำลังขยาย ภาระการควบคุมโรคได้กลายเป็นของวิชาชีพสุขภาพในกระทรวงสาธารณสุขโดยสมบูรณ์แล้วอีกครั้ง ตอนนี้สิ่งที่เริ่มชัดเจนคือ หลายฝ่ายเริ่มเข้าเกียร์ว่าง มหาดไทยปกครองท้องถิ่นเริ่มถอยและเหนื่อยล้า ฝ่ายการเมืองก็เลิกให้ความสำคัญมาเข้าสู่โหมดเตรียมการเลือกตั้ง สาธารณสุขก็ล้าแต่ถอยไม่ได้ หยุดไม่ได้ ประชาชนก็ผ่อนคลายจนเกิดคลัสเตอร์ใหม่ใหญ่ เล็ก เป็นดอกเห็ด
กราฟกำลังขาขึ้น การระบาดกำลังจะลามขยายตัว สัปดาห์หน้ารอดูกันว่า ประโยคนี้จะจริงไหม

น่าเป็นห่วง ‘วิกฤติต้มกบ’ นักวิชาการหลายท่านออกมาเตือนในทำนองเดียวกัน โควิด19 กำลังขาขึ้นระลอกใหม่หรือไม่? ต้องไม่ประมาท ต้องบอกความจริงกับประชาชน จะได้ไม่หลงไปกับภาพผู้ติดเชื้อยืนยันด้วย rt-pcr ลดลง แต่ผลตรวจด้วย ATK ไม่ได้เอามานับรวม หรือ ลดการตรวจยืนยันด้วย RT-PCR เมื่อ ATK ให้ผลบวก
‘หมอธีระ’ ชี้ตัวเลขติดโควิดนิ่ง ในลักษณะ ‘วิกฤติต้มกบ’ เผยถ้ารวมผล ATK อาจติดพุ่ง 2.7 หมื่นคน
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าหากเจอ 7,421 คน จาก ATK แต่ไม่รายงานจำนวนการตรวจทั้งหมดคาดประมาณจำนวนการตรวจขั้นต่ำโดยคร่าว โดยประมาณการจากความไวถ้าความไวราว 90% ตามขั้นต่ำของการขึ้นทะเบียนใช้แปลว่า 7,421 คนที่ตรวจได้ผลบวก จะมาจากการตรวจ “จำนวนผู้ติดเชื้อจริง” ที่มาตรวจ ATK ขั้นต่ำราว 8,246 คน
แต่หากดูจากบทเรียนจากสถานการณ์ในนครศรีธรรมราช ที่มีข่าวพบว่าความไวเหลือ 26.94% (ช่วงความเชื่อมั่นระหว่าง 20.38-34.35%)จึงมีโอกาสที่หากนำค่าความไวนี้มาประเมินภาพรวม จำนวนผู้ติดเชื้อจริงที่มาตรวจ ATK ขั้นต่ำอาจมีถึง 27,547 คน (ช่วงความเชื่อมั่นระหว่าง 21,605-36,414 คน)ตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงการคาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อจริงที่ตรวจด้วย ATK แต่จำนวนผู้ตรวจด้วย ATK ทั้งหมดย่อมมากกว่านั้น
ที่น่าติดตามคือ หากสมมติฐานข้างต้นเป็นจริง คนที่ติดเชื้อจริงแต่ตรวจได้ผลลบ ย่อมมีจำนวนมาก และหลุดไปตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่นคนได้สถานการณ์ที่ดูนิ่งอยู่นั้นอาจเป็นไปในลักษณะ “วิกฤติต้มกบ”ดังนั้นจึงควรช่วยกันกระตุ้นเตือนคนใกล้ชิดและคนอื่นๆ ในสังคมให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด
เป็นคำเตือนที่เห็นภาพชัดเจน เพราะ “ทฤษฎีกบต้ม” หรือ The Boiling Frog Theory นั้นถูกนำมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของคนหรือองค์กรที่ไม่ปรับตัวเอง อยู่ใน comfort zoneเดิม ๆ ของตนเพราะน้ำอุ่น ๆ สบายดีโดยไม่ตระหนักว่าอุณหภูมิของน้ำนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดเดือดพอถึงจุดเดือดก็ช้าเกินไปเสียแล้วที่กบจะกระโดดหนีได้ทัน ต้องตายด้วยน้ำเดือดเพราะตั้งต้วไม่ทันเมื่อสถานการณ์เข้าสู่วิกฤต หรือ the frog being boiled alive.
ข่าวที่น่าสนใจ
เปิดคลิปอุทาหรณ์ เด็กน้อยถูกรถชนต่อหน้าต่อตา ย้ำเตือน เลี้ยงเด็กอย่าคลาดสายตา
อัยการสูงสุด แถลงนโยบาย 4 ข้อ ขับเคลื่อนการทำงาน สร้างความเชื่อมั่นประชาชน
เช็กจุดบริการ! รถฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ BMV 6 คัน เดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกกลุ่มเป้าหมาย