นางร้ายตัวแม่ หนิง ปณิตา อัปเดตชีวิตรักกับสามี จิน จรินทร์ หลังเปิดใจเคลียร์ประเด็นข่าวเม้าท์ ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเจอคำพูดของลูกสาว ที่กระทบถึงหัวใจคนเป็นแม่
ก่อนหน้านี้เคลียร์ประเด็นข่าวเม้าท์ ปริศนาอักษรย่อ นางร้ายหน้าเหวี่ยง ขนเสื้อผ้าออกจากบ้านสามี ไปได้ไม่นานสำหรับ นักแสดงและผู้จัดคนสวย หนิง ปณิตา ที่ถูกโยงข่าว ขาเตียงหัก ครอบครัวแตกแยก เพราะสามี แอบมีบ้านเล็กบ้านน้อย จนเจ้าตัวออกมายอมรับว่า ครอบครัวมีปัญหาจริง แต่อยู่ในช่วงหาทางแก้ไขกันอยู่ ซึ่งหลังจากนั้น เธอก็ไม่ได้มีการพูดถึงความสัมพันธ์ กับสามี จิน จรินทร์ ออกสื่ออีกเลย ล่าสุด (30 มี.ค.) หนิง ปณิตา ได้เปิดใจถึงเรื่องราวความรัก และสถานะครอบครัวในตอนนี้ ผ่านรายการ แฉ พร้อมเผยความรู้สึกสุดแย่ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อพูดถึงลูกสาว น้องณิริน
ชีวิตครอบครัวในตอนนี้
หนิง ปณิตา ยืนยันสถานะความรักกับสามี จิน จรินทร์ ว่า ยังเป็นครอบครัว และยังอยู่บ้านเดียวกัน ทุกครอบครัวมีปัญหาหมด ไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา แต่เราก็ต้องหาทางแก้ ซึ่งมันก็มีหลายๆ แบบ อย่างวัยรุ่น ก็คือลุย ไปตีด้วยกันเลย แต่พอวันนี้ เราต้องขอบคุณลูก ที่ทำให้เรามีสติ และใจเย็น เราไม่รู้ว่าเราจะแก้ปัญหาได้ไหม ไม่มีใครรู้ว่า พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำให้เราใจเย็น แทนที่จะโฟกัสกับสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ เราโฟกัสกับอย่างอื่นดีกว่า
เมื่อถามว่า ครั้งนี้คือปัญหาเดิมๆ ที่เคยเจอใช่ไหม เจ้าตัวบอกว่า ตนเป็นคนที่ชอบมีวันจบ ต้องเคลียร์ให้จบ เอาให้ชัด แต่บางเรื่อง มันก็เคลียร์ไม่ได้ ถ้าเคลียร์ไม่ได้ ก็ต้องปล่อย ทุกปัญหามีทางจบ แต่อยู่ที่จะจบแบบไหน วันนี้เราแก้ไม่ได้ ก็อยู่เฉยๆ เดี๋ยวเวลาจะบอกเราเอง ว่าทางออกคืออะไร วันนี้เราเห็นแค่ทางตัน แล้วข้างหน้าคือมืดมาก เราไม่รู้ว่าจะเดินไปขวาหรือซ้าย เพราะมัน 50-50 ถ้าอย่างนั้นก็ยืนเฉยๆ ดีกว่าไหม รอให้แสงรำไร มีให้เห็น แล้วค่อยๆ ไต่ไป
หนิง ยอมรับปลงกับชีวิตคู่
หนิง ปณิตา ยังบอกอีกว่า เราถึงช่วงอายุเลข 4 แล้ว แก่แล้ว มันจะไปฟาดฟันให้ได้อะไร มันเหนื่อย เรียกว่าปล่อยวางได้ไหม คงไม่ขนาดนั้น ผู้หญิงทุกคนมีหัวใจหมด เมื่อทำอะไรไม่ได้ มันคือความเคยชิน ที่ต้องยอมรับมัน ถ้าไม่ยอมรับ เราจะไม่มีทางได้เริ่มต้น คิดอะไรดีๆ บางครั้งก็ต้องยอมรับ ในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้น เราจะหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ ว่า เราสวย ทำงานเก่ง ไม่ต้องพึ่งพาใคร เป็นแม่ที่ดี มันคือการหลอกตัวเอง ก็ต้องยอมรับ
ที่เหมือนปลงตอนนี้ ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม เมื่อรับรู้ปัญหาแรกๆ คือไม่ใช่ดิ่ง เสียใจ หรือเศร้า แต่ตอนที่เรารู้สึกแย่จริงๆ คือตอนที่ต้องมาสัมภาษณ์นักข่าว เพราะบางทีการเขียนข่าว ก็ไม่เป็นธรรมกับเรา ด้วยภาพลักษณ์เราที่แรง แต่ไม่เคยทำร้ายใคร เราชัดเจน ไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นก่อน นอกจากจะมีคนวิ่งมาขอความช่วยเหลือ แต่จบลงตรงที่ สื่อเอาไปเขียนว่า เราไปเผือกเรื่องคนอื่น กลายเป็นสิ่งที่เราทำดี ได้รับภาพติดลบกลับมา ทำเหมือนเราเป็นนางร้าย เลยแอบน้อยใจ
เสียงสั่นกลางรายการ เพราะมีคนเมาท์เรื่องข่าวให้ น้องณิริน ฟัง
เนื่องจากข่าวมีผลกระทบกับลูกสาว คือ น้องณิริน นี่จึงเป็นสิ่งที่ตนกังวล สิ่งที่แย่ที่สุดคือ ณิรินไปโรงเรียน แล้วเพื่อนๆ เอาเรื่องที่คนเมาท์ในข่าว มาพูดกลางสระว่ายน้ำ ตอนแรกหนิงไม่รู้ แต่แม่ของเพื่อนสนิทณิริน มาเล่าให้ฟัง เราถามลูกว่า ทำไมไม่เล่าให้แม่ฟัง แล้วน้องณิรินตอบมาว่า แม่ วันๆ แม่เครียดเยอะแล้ว ไหนจะงาน ไหนจะเรื่องส่วนตัว หนูไม่อยากเอาสิ่งที่หนูโดน ไปกระทบแม่อีก (เสียงสั่น) เพราะหนูรู้ว่า ทั้งหมดที่แม่ทำวันนี้ เพราะแม่ทำเพื่อหนู
ตนคิดว่า เด็กไม่มีเจตนา จะมาพูดหรอก แต่บางทีเด็กฟังพ่อแม่คุยกัน แล้วเอาไปพูดกัน คิดว่าเรื่องในสังคม เดี๋ยวนี้นำมาเม้าท์กันทุกเรื่อง เขาเคยคิดบ้างไหมว่า การเขียนข่าวเพื่อโหน หรือสร้างแสงให้ตัวเอง มันทำร้ายคนอื่น
บางทีเรื่องผัวเมีย อย่าไปคิดว่าต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา สุดท้ายคนเราต้องมีแยก แต่จะแยกกันไปในสภาวะไหน ถ้าเราไม่สตรองด้วยตัวเอง แล้วจะก้าวต่อไปยังไง
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
