เป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจมานาน กับเรื่องคดี Forex-3D ที่มีเหล่าคนดังมีชื่อเข้าไปเอี่ยวมากมายกับคดีนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคู่รักอย่าง ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน และ ใบเตย สุธีวัน กุญชร โดยทั้งสองได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ล่าสุดทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกกับกรณี พนักงานอัยการเลื่อนนัดสั่งฟ้อง 8 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง Forex-3D เป็นวันที่ 10 เม.ย.นี้
จุดเริ่มต้นของการรู้จักกันกับ อภิรักษ์
โดยดีเจแมน ได้เล่าย้อนว่าเมื่อ 2 ปีก่อน ตนได้รู้จักกับ อภิรักษ์ ผ่านการเป็นดีเจ โดยอภิรักษ์ได้เป็นแฟนคลับของตน จากนั้น อภิรักษ์ ก็ได้นำพระเครื่องมาให้ตน เพราะตนชื่นชอบด้านนี้ ก่อนมีการเช่าพระและวัตถุมงคลมา 4 ชิ้น มูลค่าราว 13 ล้านบาท ในช่วงเวลา 4 ปี จนกลายเป็นเส้นทางการเงินตามที่เจ้าหน้าที่สงสัย ส่วนเรื่องรูปถ่ายตนกับอภิรักษ์ ตอนนั้นตนได้ไปทานข้าวกับรุ่นพี่คนอื่น และเขาก็ได้เข้ามาขอติดตาม รวมถึงการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่บางครั้ง อภัรักษ์ก็ได้ขอติดตามไปด้วย ส่วนรูปการนั่งประชุมเป็นการประชุมเรื่องถั่งเช่า และรูปที่นั่โต๊ะประชุมก็คือตนทำมูลนิธิเด็กพิการกับครอบครัวมานานแล้ว ซึ่ง อภิรักษ์ ก็มีความสนใจอยากทำเช่นกัน จึงไปให้คำแนะนำและเกิดเป็นรูปนั้นขึ้นมา
ยืนยันไม่เคยชักชวนใครมาร่วมลงทุน
ซึ่ง ดีเจแมน เผยว่าตนไม่ทราบมาก่อนว่า อภิรักษ์ทำอาชีพอะไร และยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่เคยชักชวนใครมาร่วมลงทุน และได้ขอโทษผู้เสียหายกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองได้ช่วยเหลือประชาชนผ่านการให้การเป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวนเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าว ยอมรับว่าทั้งบ้านและรถของตนยังผ่อนไฟแนนซ์ตามปกติ ตอนนี้ขอให้ได้โอกาสต่อสู้บ้าง เพราะตนเองไม่เคยหลบหนี และยังให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่อย่างดี ซึ่งตอนนี้ตนขอแค่ได้พูดความจริง โดยจะชี้แจงทั้งหมดหลังจากนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชี้แจงเส้นทางการเงิน
ใบเตย สุธีวัน ได้เผยว่า ความเชื่อมโยงของเส้นทางการเงินที่เจ้าหน้าที่พบว่าเกี่ยวโยงกับ อภิรักษ์ มีอยู่ 3 รายการ มียอดทั้งหมด 990,000 ซึ่งได้ยื่นพยายานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี 3 รายการที่กล่าวนั้น ก็คือค่าซื้อกระเป๋าจากนายอภิรักษ์ 550,000 บาท ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าโอนเงินคืนให้กับภรรยา อภิรักษ์ ที่ได้ใช้บัตรกดเงินสดออกให้ตนไปก่อนหน้า
ประเด็นไม่ได้เข้าพบ DSI
ส่วนเรื่องที่ไม่ได้เข้าพบดีเอสไอ เพราะว่าต้องใช้ระยะเวลา พรุ่งนี้ต้องมีการเตรียมหลักทรัพย์ ก็เตรียมเท่าที่เขาบอกมา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าหลักทรัพย์จะเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ตายตัว แต่ถ้ามันเกิดเหตุการณ์ที่จะต้องประกันตัว แต่ถ้าค่าประกันตัวมันมากเกินไปกว่าที่ตนมีก็อาจจะต้องยอมให้เป็นไปตามกระบวนการ ถ้าไม่รอดก็คือไม่รอด ก็ต้องทำใจ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY