เจมส์ จิ เปิดใจครั้งแรกหลังเกิดประเด็นดราม่าเกี่ยวกับ โฟน ที่พูดจาไม่เข้าหูชาวเน็ต ทำเอาเจ้าตัวไม่นิ่งนอนใจแถลงแก้ต่างให้ภรรยาทันที
ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีดราม่าเกี่ยวกับ โฟม ภรรยาคนสวยของ เจมส์ จิ ที่ไลฟ์แล้วพูดไม่เข้าหูชาวเน็ต บางคอมเม้นท์ก็บอกว่าเหมือนไม่ให้เกียรติสามีบ้าง ช็อตฟีลสามีบ้าง ทำเอาแฟนๆ ห่วงความรู้สึก เจมส์ จิ เพราะเจ้าตัวก็หน้าเจื่อนตลอดทั้งไลฟ์


เจมส์ จิรายุ เคลียร์ประเด็นดราม่า โฟน หลังโดนทัวร์ลงหนัก
ดราม่าที่เกิดขึ้นโฟมค่อนข้างโดนเยอะเหมือนกัน หาว่าไม่ให้เกียรติ
“เอาจริงๆ ดราม่านี้ผมกมีโอกาlได้เข้าไปอ่านในคอมเม้นท์นะ แบบไม่ให้เกียรติผมบ้างอะไรบ้าง แต่ว่าคือจริงๆ อะในความรู้สึกผม ผมไม่รู้สึกว่าเขาไม่ให้เกียรติผม หรือว่าข่มอะไรเงี๊ย เพราะว่าผมอะชอบไปกวนเขา คือปกติแล้วอะเขาก็ไม่ได้มีแบบนี้ตลอดเวลาหรอก เราชอบไปกวนเขาให้เขามีอารมณ์มีโมโหอะไรเงี๊ย ผมชอบเพราะว่ามันน่ารักดี แต่ถ้าถามว่าปกติอะเขาก็ไม่ได้มาช๊อต มาอะไรตลอดเวลาเขาก็เป็นคนน่ารักปกติ”
มีคำที่บอกว่ามันเกินงามไปเหมือนเขาไม่ให้เกียรติเรา ไม่ให้เกียรติ สามีอะไรงี้ ได้มีการคุยเรื่องนี้ประเด็นนี้กับโฟมไหม เขาเครียดรึเปล่า
“ผมก็ถามเขานะครับ คือจริงๆผมเป็นห่วงเขา ผมก็เลยถามเขาว่าเป็นยังไงบ้างอะไรงี้ เขาก็บอกว่า เขาก็เซ็งๆ แหละ ก็ไม่ได้ชอบอะไร คือผมก็พยายามคุยกับเขาดู คือด้วยความโลกโซเซียลมีเดียอะครับเราก็จะเห็นว่ามันมีหลายคนใช่ไหม ก็จะมีมุมมองที่แตกต่าง เเล้วแบบคลิป 10 วิ มันอาจจะอธิบายความรักของคู่เราอะได้ไม่ทั้งหมด พฤติกรรมมันเป็นยังไงอะไรเงี๊ย”
เหมือนเหตุการณ์วันนั้นอะ หน้าเราเจื่อนๆนิดนึง
“จริงๆ ผมก็หาเรื่องแหละ (เหมือนเราไปแหย่เสือ) เหมือนเราไปแหย่เสือ คือเอางี้เวลาผมอยู่กับเพื่อนอะ คือมันจะมีแค่บางเรื่องที่แบบนู้นนี่นั่นอะไรเงี๊ย คือมันจะมีแค่บางเรื่อง แล้วผมก็จะรู้ว่ามันมีเรื่องไหนบ้าง เราก็จะไปแหย่ๆ มันเหมือนเป็นการเอนเตอร์เทรนอะ”
เหมือนเราก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าเข้าไปอย่างงี้ต้องโดน
“ใช่ คือถ้าไปทำนองนี้ก็โดนอะไรเงี๊ย ก็สมมติว่าเล่นกีต้าอะไรเงี๊ย ก็ลองนึกภาพดูนะ ปกติเวลาที่ผมซ้อมอะ จะซ้อมเพื่อไปทำงานใช่ไหม แล้วสิ่งที่เขาต้องได้ยินอะ วนอินโทรก็จะวนอินโทรนั้น วนแค่ท่อนฮุคก็ท่อนฮุคนั้น คือเขาก็ฟังแล้วก็รู้สึกว่าฟังแล้วก็ท้อนิดนึงอะไรเงี๊ย แต่ว่าไอ้ประเด็นนี้ก็ไม่ได้อะไรเพราะเขาเข้าใจกัน”
ตอนที่เจมส์เข้าไปอ่านคอมเม้นแล้วเขาว่าภรรยาเราแบบนี้ ตอนนั้นรู้สึกยังไง
“คือจริงๆ ผมก็เข้าใจนะ หมายถึงว่าเข้าใจทุกคน ด้วยความที่คลิปมันสั้นมากอะ แล้วมันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เรารู้จักและเข้าใจกันในทุกๆวัน จังหวะนั้นเราแค่เล่นกันอะไรเงี๊ย ก็เลยคิดว่าเขาก็อาจจะมองในมุมที่ต่างไป แต่ว่าสิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดก็น่าจะเป็นความรู้สึกเขานี่แหละครับ”
ถึงขนาดปิดไลฟ์ไปเลย
“ก็ไม่นะครับ คือช่วงนี้งานเขายุ่งๆ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวคงปกติแหละ”
ต้องระวังมากขึ้นในการไลฟ์ครั้งต่อไป
“มากขึ้นมั้ยอะหรอ ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กัน”
เราก็ต้องเบรคการเข้าไปแหย่ของเราด้วยรึเปล่า เพราะต้นเหตุมันมาจากเรา
“เศร้าเลยผมไม่ได้เเหย่อีกแล้ว”
ในช่วง 10 ปีที่ป่านมา คู่เราก็จะเป็นสไตล์แบบนี้อยู่แล้วใช่ไหม
“ใช่ คือผมว่าเรื่องนี้ เราว่ามันเป็นตัวตนซึ่งกันและกัน คือผมอะ ที่นอกจากอยู่ในสื่อหรืออยู่ในคอนเทนต์อะไรงี้ คือผมก็จะเป็นตัวตนของผม เขาก็จะเป็นตัวตนของเขา ผมว่าเวลาของความรักอะเราก็ควรเป็นตัวตนของตัวเองอะ เราก็จะอยู่ด้วยกันอย่างยั่งยืนได้”
อีกเรื่องหนึ่ง ที่เราบ่นว่าเหนื่อย
“ผมว่าในเรื่องนั้นอะ เขาน่าจะพูดในบริบทที่เขาชินกับการทำงานเบื้องหลัง คือเขาทำงานเบื้องหลัง ทำโปรดักชั่นเฮ้าส์ แล้วเขาก็เห็น คืองานโปรดักชั่นเฮ้าส์ของเรามันกินเวลาเยอะ อย่างสมมติว่า ออกบ้านตี 5:10 นาที ไม่รู้ว่าอาจจะ 6 โมงเที่ยงคืน แล้วก็ออกบ้าน รูทีนมันก็จะเป็นอย่างี้เรื่อยๆ แต่ว่าสิ่งที่ต้องพูดไปผมว่าเขาพูดในมุมมองว่า ทีมกล้อง ทีมไฟ ทีมอะไรงี้ ที่เขาต้องรอเก็บของด้วยนะ ต้องรอไปโหลดของที่ออฟฟิศอีก แล้วก็ตื่นเช้ามาโหลดของที่ออฟฟิสอีกก่อนที่จะมาออกกอง คือเขาก็จะเห้นใจในมุมมองของคนอื่นด้วย แล้วก็เป็นเวในการให้กำลังใจของเขา”
กลัวเขาจะนอยไหม เลิกแยกกับเราเลยอย่างงี้
“ผมว่าถ้าถึงขั้นนี้ได้เเล้ว ผมว่าก็คงไม่เดินทางไปถึงการนอยแบบนี้หรอก”
อัพเดทชีวิตหลังแต่งงาน
“ตอนนี้ยังไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกันเท่าไหร่ครับ คือตอนนี้เเน่นมากครับ(งาน) เมื่อวานพึ่งปิดกองละครไป แล้วก็ถ่ายกันยาวมาก แล้วก้มีอีกโปรเจกต์ที่กำลังจะปิด ตอนนี้ทำงานทุกวันครับ”
มีเวลาสวีทไหม ฮันนีมูน
“ต้องห้ามถามเรื่องนี้ครับ เพราะว่าเรายังไม่มีเวลาเลย”
วาเลนไทน์แรกในฐานะสามีภรรยาพิเศษรึเปล่า
“เอาด้วยความสัจจริงเลยนะครับ ไปทำงานงานแต่จะพยายามรีบครับ(หัวเราะ)”
