“ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” น้องสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” แจงชัด ดราม่าไม่ซื้อพริก 4 ถุง ชี้มีเหตุผล พร้อมวอนเข้าใจเจตนาดีในการช่วยแม่ค้า
กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียล หลังนักร้องสาวชื่อดังจากแดนใต้ ลิลลี่ นารีนาท เชื้อแหลม หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ออกเดินสายเหมาสินค้าช่วยเหลือแม่ค้าตลาดสดในพื้นที่ภาคใต้ ตามแนวคิดของพี่สาว เจนนี่ รัชนก หรือ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคลิปเหตุการณ์หนึ่งที่เธอปฏิเสธไม่ซื้อพริกสด 4 ถุงจากแม่ค้ารายหนึ่ง
เหตุเกิดที่ ตลาดไสยวน จังหวัดพัทลุง ขณะลิลลี่และทีมงานกำลังสุ่มเลือกเหมาสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ได้มีแม่ค้ารายหนึ่งนำพริกสด 4 ถุงมาขอให้ช่วยซื้อ แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างสุภาพ ทว่าเมื่อคลิปเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ลงโซเชียล ก็มีชาวเน็ตบางส่วนตั้งคำถามถึงความใจดีของลิลลี่ โดยมองว่าเพียงพริก 4 ถุง ราคาน่าจะไม่เกิน 40 บาท หากเหมาซื้อไปก็น่าจะไม่เสียหาย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ลิลลี่ ได้ออกมาชี้แจงผ่าน TikTok ถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าเธอได้รับมอบหมายให้ช่วยเหมาสินค้าในตลาดภาคใต้เท่านั้น พร้อมเผยว่าโครงการนี้มีการจัดสรรงบประมาณจากพี่สาวที่ต้องใช้ให้ทั่วถึง จึงต้องวางแผนช่วยเหลืออย่างเป็นระบบและไม่สามารถเหมาทุกร้านได้
“เราวางแผนว่าจะใช้ประมาณตลาดละ 20,000 บาท เพื่อให้สามารถกระจายไปได้หลายตลาด คนที่มีของเยอะก็ต้องใช้เงินเยอะ แต่คนที่มีของน้อยก็อาจจะไม่ได้เลย เราพยายามสุ่มให้ทั่วถึง”
ลิลลี่ยังเผยว่า ในเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นนั้น แม่ค้ารายดังกล่าวไม่ได้มีแค่พริก 4 ถุง ยังมีขมิ้นอีก 2 ตะกร้า ซึ่งทีมงานได้เข้าไปที่ร้านของแม่ค้าท่านนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้ตัดต่อคลิปให้เห็นทั้งหมด
“ป้าคนนั้นอยู่ร้านที่เรากำลังจะเหมาอยู่แล้วค่ะ ตอนนั้นกำลังคิดเงินกันอยู่ แต่ด้วยคลิปมันสั้น เลยไม่ได้ใส่ทุกอย่างลงไป”
ลิลลี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่ยื่นของหรือยัดของมาโดยที่ผู้รับยังไม่เต็มใจ พร้อมย้ำว่าเธอต้องการสนับสนุนแม่ค้าที่ตั้งใจขายของจริงๆ
“บางทีเรามองว่า ถ้ายื่นของมาทั้งที่เราไม่ได้จะซื้อ มันดูเหมือนเขาไม่ตั้งใจจะขายจริงๆ ยังมีอีกหลายคนที่ลำบากกว่า ยิ่งเรามาจากครอบครัวแม่ค้า เราเข้าใจดีว่าคนที่พยายามจริงๆ เป็นยังไง”
นอกจากนี้ ลิลลี่ยังขอให้ชาวเน็ตเห็นใจและให้กำลังใจพี่สาวอย่างเจนนี่ ที่เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดการช่วยแม่ค้าผ่านการเหมาสินค้าตามตลาดสด โดยหวังว่าโครงการดีๆ แบบนี้จะไม่ถูกบั่นทอนด้วยความเข้าใจผิด
“หนูอยากให้ทุกคนซัพพอร์ตพี่เจน เพราะสิ่งที่เขาทำมันดีมาก พวกเราก็เคยเป็นแม่ค้า เรารู้ดีว่าการได้รับการช่วยเหลือแบบนี้มันมีค่าแค่ไหน”
แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของการทำความดีในโลกยุคโซเชียล ที่ทุกการกระทำอาจถูกจับตามองและตีความหลากหลาย แต่ลิลลี่ก็ยังยืนยันหนักแน่นว่า เธอและทีมงานตั้งใจทำเพื่อช่วยเหลืออย่างแท้จริง และขอให้สังคมใช้วิจารณญาณและความเข้าใจมากกว่าการตัดสินจากเพียงคลิปสั้นๆ บนโลกออนไลน์