หลังจากที่กลับมาโสดอย่างเต็มตัวสำหรับนักแสดงสาวคนสวย มารี เบิร์นเนอร์ ที่โสดจนเนื้อหอม มีข่าวเม้าท์ว่ามีหนุ่มตามขายขนมจีบเพียบ ล่าสุดมีโอกาสได้เจอกับเจ้าตัวในงาน Thailand Gala Premiere Wonder Women 1984 บรรดาสื่อเลยไม่พลาด! เลยได้มีโอกาสได้ถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไม่รอช้า
และยังถือโอกาสนี้ในการพูดถึงอดีตคนรักเก่า กัน นภัทร ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ที่ส่งข้อความไปแต่ไม่ได้รับการตอบกลับให้ได้รู้กันอีกด้วย
ช่วงนี้ดูเราจะเนื้อหอมมาก เพราะล่าสุดมีข่าวว่ามีหนุ่มตามรับตามส่ง ?
“ไม่มีค่ะ ไม่มี ไม่มีจริงๆ”
มีหนุ่มๆ เข้ามายื่นใบสมัครเยอะไหมช่วงนี้ ?
“ไม่เยอะเลยค่ะ ไม่เยอะจริงๆ เพราะช่วงนี้ตัวหนูเองก็กิจกรรมเยอะเหมือนกัน ตีแบต ขี้ม้า แข่งรถ หลากหลายอยู่ค่ะ”
เหมือนว่าเราก็ดูจะสบายใจมากขึ้นด้วย ?
“ก็สบายใจนะคะ มันเป็นช่วงชีวิตที่แบบ อยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากเจอใคร หรือใครชวนไปไหนเราก็ไปได้หมด ก็ดีค่ะ”
ตอนนี้คนจับตามองว่าหนุ่มๆ ทั้งสามคน มีคนไหนบ้างที่เข้าวิน ?
“ไม่ใช่ทั้ง 3 เลยค่ะ คุณเดาผิดแล้วค่ะ (หัวเราะ) ไม่ใช่ทั้ง 3 คน”
กับแก๊ง พิชญ์ กาไชย ล่ะ อันนี้แฟนๆ ก็จับตามองด้วยเหมือนกัน ?
“จริงๆ เป็นแวดวงสังคมที่รู้จักอยู่แล้วค่ะ
ถ้าหากจะมีรักครั้งใหม่ เรามีกฎเกณฑ์ไหมว่าต้องดูอะไรเป็นพิเศษ ?
“จริงๆ ก็คือเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ เปิดใจอยู่แล้ว และก็ไม่ได้ปิดตัวเอง ดูไปเรื่อยๆ ถ้าอะไรที่มันทำให้เรารู้สึกใช่รู้สึกสบายใจ เราก็ไปทางนั้น แต่ก็ไม่รีบค่ะ ไปเรื่อยๆ”
กลัวไหมว่าถ้าหากเรามีความรักขึ้นมา แล้วมันจะกลายเป็นข่าวเป็นประเด็นอีก ?
“อืม…ไม่กลัวนะ คือหนูเป็นคนที่แบบรู้สึกว่าการที่เรามาอยู่ตรงนี้ ในเรื่องของความรักหรือชีวิตส่วนตัว มันก็ยังเป็นเรื่องที่เราอยากใช้ให้เต็มที่เหมือนกับคนทั่วไป เราไม่อยากปิดกั้นตัวเองเพื่อแค่รักษาอาชีพของเรา หนูมองว่าตรงนี้มันคืออาชีพ อาชีพก็คืออาชีพ ชีวิตส่วนตัวก็คือชีวิตส่วนตัว เราก็ควรมีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างเต็มที่โดยที่มันไม่ได้กระทบกัน”
ขออนุญาตถามเรื่องที่เราปิดกั้นอดีตคนรักที่เขาพยายามติดต่อเรา ?
“คือมัน…ก็ไม่รู้ว่าพ้อยท์ของเขาคืออะไรเหมือนกัน แค่รู้สึกว่า คือถ้าคนเราเป็นเพื่อนกัน หรือมันมีเหตุผลอะไร โอเคมีความจำเป็นที่ต้องร่วมงานหรืออะไรแบบนี้ มันก็จะมีเหตุผลในการพูดคุย แต่อันนี้ก็รู้สึกว่าสิ่งที่พยายามจะพูดคุยหรือทักหา มันไม่ใช่สิ่งที่สมควร หรือเป็นสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องตอบรับค่ะ”
หรือว่าเรายังทำใจไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะไม่ตอบ ?
“อ๋อไม่ (ยิ้ม) ไม่เกี่ยวค่ะ แค่รู้สึกว่าแบบ…คือมันก็จะมีบางคนที่เรารู้สึกว่าเป็นเพื่อน หรือบางคนที่เข้ามาในชีวิตแล้วเรารู้สึกว่า ออกไปแล้วก็ไม่ควรจะต้องมีต่อไป”
พอเขาทักมาแบบนี้ หลายคนก็มองว่าเขากำลังง้อเรา ?
“ไม่ค่ะ คือมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมาพูดว่าใครพูดอะไร หรือใครทำอะไร เอาเป็นว่าสิ่งที่เรานิ่ง น่าจะเป็นสิ่งที่ใจดีที่สุดแล้วค่ะ”
ยังสามารถร่วมงานกันได้ไหม จะลำบากใจไหม ?
“คือจริงๆ ถ้าบอกว่าการที่เราไม่ตอบ คือสิ่งที่ทำให้เราสองคนจะต้องลำบากใจถ้าต้องเจอกัน หนูว่าบางทีสิ่งที่เขาพิมพ์มา ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราลำบากใจมากกว่า (หัวเราะ)”
ถ้ามีคนติดต่องานมาจริงๆ ร่วมงานได้ไหม ?
“ก็ร่วมได้ ก็ต้องทำหน้าที่ของเรา แต่ก็คงไม่มีความแบบ คือเราไม่ใช่คนแบบเอ๊ย…เป็นยังไงบ้าง เราค่อนข้างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ก็คงคิดว่ามันไม่น่าจะมีใครจับมาคู่กันอยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่ว่าถ้าอยากทำแบบนั้นก็ทำได้ สบายใจ ไม่ได้มีอะไรติดค้าง”
สถานะตอนนี้เรียกว่าเป็นอะไรกัน ?
“ก็คนเคยรู้จักกัน…มั้ง เออ…ประมาณนั้นค่ะ”
เราเลือกที่จะไม่ตอบกลับไป เพราะไม่อยากให้มีประเด็นต่อความยาวสาวความยืด ?
“คือมันไม่มีประโยชน์อะไรอะ การพูดคุยไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่ก็จบได้แล้วแหละประเด็นนี้”
