หนึ่ง จักรวาล โพสต์ขอบคุณทีมงานทุกฝ่าย….ศิลปินทุกๆคนน้องๆนักดนตรีพิธีกรสถานที่Liveทีมเสียงทีมภาพทีมสวัสดิการอาหาร,เครื่องดื่ม ซึ่งทุกคนมาทำงานนี้ด้วยใจจริงๆไม่มีค่าจ้างทั้งสิ้น เนื่องในงานคอนเสิร์ต ”28 ปีดวงจันทร์ไม่ลับฟ้า”
โดยข้อความระบุว่า
“บันทึกความทรงจำ. ”28 ปีดวงจันทร์ไม่ลับฟ้า” ก่อนอื่นผมขอกราบขอบพระคุณ (คุณอาชัยชนะ บุญนะโชติ/คุณอาไวพจน์ เพชรสุพรรณ/อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี) 3ศิลปินแห่งชาติ ที่มาร่วมเป็นประธานในConcert ครั้งนี้ เพราะบุคคลทั้ง3ท่านนี้เลี้ยงดูและรู้จักพี่ผึ้งเป็นอย่างดี
คอนเสิร์ตครั้งนี้ผมทำสุดความสามารถ ยอมอดหลับอดนอน ทุ่มเททุกสิ่งทั้งแรงกาย แรงใจ เพราะต้องทำเพลงให้เสร็จภายในไม่เวลา10วัน 45เพลง ซึ่งจริงๆแล้วไม่สามารถเป็นไปได้ (ไม่ใช่ว่าผมเก่ง) แต่ทุกๆเพลงมันอยู่ในความทรงจำของผมตั้งแต่เริ่มเล่นคาเฟ่ หาประสบการณ์ในวัยเด็ก ผมจึงถือว่าเพลงเหล่านี้คือ”ครูของผม”
ผมเคยมีโอกาสได้เล่นให้พี่ผึ้งร้องเพียงครั้งเดียวในชีวิตเมื่ออายุประมาณ 10 กว่าขวบ หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย จนพี่ผึ้งเสียชีวิต ทุกครั้งที่ไปกราบพี่ผึ้งที่วัดทับกระดาน ผมจุดธูปบอกพี่เสมอว่า”ถ้าวันนี้พี่ผึ้งยังมีชีวิตอยู่ ผมคงได้ทำเพลงและเล่นดนตรีให้พี่ร้อง และได้บอกกับพี่ว่าทุกๆเพลงของพี่ช่วยพัฒนาฝีมือให้ผมเป็น หนึ่ง จักรวาลในวันนี้ครับ”
จุดประสงค์ของการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ของผมเพื่อ.
- แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่านักร้องทุกคนจะอยู่ในยุคสมัยไหนหรือร้องแนวเพลงใดก็ตาม ทุกคนมีพี่ผึ้ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์”เป็นต้นแบบของการร้องเพลง
- ให้วงการลูกทุ่งที่เป็นลูกทุ่งแท้ๆยังคงอยู่ เพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้ศึกษางานลูกทุ่ง และเป็นการการันตีว่าเพลงลูกทุ่งไม่ได้เชยอย่างที่บางคนคิด เพราะนี่คือสมบัติของชาติ ซึ่งไม่มีชาติไหนในโลกทำได้เหมือนเรา
- ให้เด็กรุ่นใหม่ได้เห็นถึงความพยายามของการที่จะเป็นศิลปินว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด พี่ผึ้งคือตัวอย่างที่ดีของความพยายาม จากคนที่อ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่สามารถจำเนื้อ/ทำนองเพลง และถ่ายทอดอารมณ์เพลงจากหัวใจได้อย่างสุดยอด
- เพื่อให้เพลงอีกหลายๆเพลง ที่บางคนอาจจะลืมไปแล้ว หรือไม่ได้ฟังนานมากแล้ว “ฟื้นขึ้นมา”และยังคงอยู่ในใจของคนไทยทั้งประเทศตลอดไป
- เพื่อให้นักดนตรีในวงของผมทุกคนได้มีโอกาสเล่นและศึกษาเพลงลูกทุ่งที่เป็นอมตะตลอดกาล เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสได้ผ่านประสบการณ์การเล่นลูกทุ่ง ไม่มีโอกาสได้เล่นคาเฟ่มาเหมือนผม และนี่คือโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของน้องๆ
การทำงานเริ่มต้นจากการปรึกษาพี่ท็อป ศราวุธและพี่ไก่จันทร์จวง ดวงจันทร์ น้องสาวของพี่ผึ้ง หลังจากนั้นเราก็เริ่มขอลิขสิทธิ์เพลงตามห้างแผ่นเสียงต่างๆ /ขอลิขสิทธิ์ภาพจากพิพิธภัณฑ์พุ่มพวง /ขออนุญาตใช้ชื่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จากลูกชายของ “ครูมนต์ เมืองเหนือ”ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์ และเป็นผู้ตั้งชื่อนี้ให้กับพี่ผึ้ง/ได้ปรึกษากับคุณพ่อไวพจน์ เพชรสุพรรณ /หลังจากนั้นผมก็เริ่มชวนน้องๆศิลปินที่มีใจรัก และศรัทธาพี่ผึ้ง ซึ่งทุกคนพร้อมใจกันมามากมาย
และท้ายสุดเริ่มเคลียร์ลิขสิทธิ์เพลงที่อยู่ที่แกรมมี่ 26เพลง (ซึ่งผมจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วยเงินส่วนตัวของผมเองจำนวน 1##,### บาท) ….ตุ๊กติ๊ก ภรรยาของผมก็ช่วยประสานงานจัดเคลียร์เรื่องสถานที่ในการLiveสด /จัดการเรื่องอาหาร เครื่องดื่มเลี้ยงนักดนตรีและศิลปิน ทั้งวันซ้อมและวันจริง /เคลียร์เรื่องที่จอดรถของศิลปินที่มาร่วมงาน/ เคลียร์เรื่องห้องอาหารห้องแต่งตัว และอีกหลายเรื่อง…(รู้เลยว่าเค้าเหนื่อยมาก แต่เค้าเห็นผมมีความสุขกับการทำงานนี้❤️ ผมนอนเกือบเช้าทุกวันครับ) ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายทำงานหนักและเหนื่อยมาก เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด แต่ผมมีความสุขมากๆที่ได้ทำและได้เห็นทุกๆคนที่ได้ดูLiveสด มีความสุขกับบทเพลงของพี่ผึ้งไปกับผมครับ
ผมได้ทำตามคำพูดที่ให้กับพี่ผึ้งที่วัดทับกระดานแล้วว่า “ถ้าผมมีโอกาส ผมจะนำเพลงของพี่มาถ่ายทอดให้คนไทยได้ฟังกันสักครั้งหนึ่ง”อย่างน้อยผมถือว่านี่คือการ”บูชาครู”ของผม…..ซึ่งอาจจะมีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็ได้ แต่ผมภูมิใจที่ได้ทำครับ
ท้ายสุดนี้…ผมขอขอบคุณทีมงานทุกฝ่าย….ศิลปินทุกๆคน/น้องๆนักดนตรีทุกคน/ พิธีกร/สถานที่Live/ทีมเสียง/ทีมภาพ/ทีมสวัสดิการอาหาร,เครื่องดื่ม ซึ่งทุกคนมาทำงานนี้ด้วยใจจริงๆไม่มีค่าจ้างทั้งสิ้น เพื่อความสุขของคนไทยทั้งประเทศครับ??????❤️❤️❤️❤️❤️❤️
ทุกสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีบารมีของ ราชินีเพลงลูกทุ่ง”พุ่มพวง ดวงจันทร์”❤️????”
