อุ๊ หฤทัย ชี้สาเหตุ ส.ว. ไม่เห็นชอบ ฟันธง! พิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ แน่นอน

อุ๊ หฤทัย ฟันธง! พิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ แน่นอน ลั่น เข้าใจ ส.ว. พร้อมเผย 2 สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ พิธา ไม่อยู่ในตัวเลือกของ ส.ว.

หลังจากที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ผ่านการโหวตรับรองเป็นนายกรัฐมนตรี โดยได้คะแนนเสียงจาก ส.ส. และ ส.ว. ไม่ถึง 375 เสียง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย และกลายเป็นปมร้อนแรงที่ถูกพูดถึงว่อนโซเชียลในทันที งานนี้มีเหล่าคนดังและประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก

อุ หฤทัย เผยมุมมอง ส.ว. ไม่เลือก พิธา

ล่าสุดศิลปินดีว่ารุ่นใหญ่ อุ๊ หฤทัย ได้พูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวกับทาง ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เผยมุมมองของการโหวตนายกฯ ในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าตัวมองว่า พิธา ไม่ผ่านด่าน ส.ว. นั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า ประเด็นแรก พิธา และพรรคก้าวไกล มีนโยบายในการแก้มาตรา 112 ซึ่งมันเป็นหมวดความมั่นคงของชาติ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะถ้าชาติไม่มีความสงบ สันติ มีความขัดแย้ง คุณจะไม่มีเสรีภาพ ไม่มีประชาธิปไตย และเท่ากับดึงสถาบันลงมาเป็นคู่ขัดแย้งกับราษฎร ส่วนประเด็นที่ 2 คือ จุดยืนในการแสดงออกมีปัญหา ในเรื่องการดุลอำนาจระหว่างประเทศ ที่โอนเอียงอย่างเห็นได้ชัด จุดยืนไทยเราต้องเป็นมิตรกับทุกประเทศ เราจะไม่เลือกข้าง แต่จุดยืนของเขาไปเข้าข้างความขัดแย้ง

แล้วที่คนพูดว่า ส.ว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้ว่าในอดีต ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างความผิดพลาดให้กับกลไกกระบวนการยุติธรรม ถูกซื้อโดยพรรคการเมือง เขาถึงไม่ให้ ส.ว. มาจากการเลือกตั้งในอดีต เพราะคนไทยยังไม่มีวุฒิภาวะในการเลือก ส.ว. ฉะนั้นต้องมาจากการคัดสรร มันถูกต้องแล้ว

เมื่อถามว่าให้วันนี้เป็นการโหวตเลือกนายกฯ ไม่ได้เป็นการโหวตเพื่อแก้กฎหมาย เธอบอกว่า คุณเขาไปก็ไปแก้กฎหมายอยู่ดี แล้วตอนเดินหาเสียงคุณก็พูดเรื่องแก้ ม.112 ทุกวัน นอกจากนี้เรื่องนโยบายคุณก็ทำไม่ได้ ค่าแรง 450 เพราะธุรกิจมันพัง ประเทศก็xิบหาย นอกจากนี้นายพิธาก็ยังมีคดีที่ยังไม่เคลียร์ เลยมองว่าคนอื่นเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า คะแนนโหวตก็เป็นตามที่คาดการณ์ เดี๋ยวเขาก็คงเสนอชื่อพิธาแล้วโหวตกันอีก

คาดการณ์ผลการโหวตครั้งที่ 2

สำหรับการโหวตครั้งที่ 2 นั้น อุ๊ เผยว่า ถ้าให้คาดการณ์ก็คงจะมีการระดมมวลชน เรียกม็อบ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องยากมากที่คนจะออกมาเป็นล้าน เรื่องการโหวตของ ส.ว ไม่มีใครมาบังคับ ส.ว.ได้ ถ้าบังคับได้ก็ต้องบังคับได้ทั้งหมด ตรงนี้มันพิสูจน์แล้วว่า มันคือสิทธิของเขา สำหรับโหวตครั้งที่ 2 ตนก็ยังมองว่านายพิธาไม่ผ่านแน่นอน วันข้างหน้าพรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทยก็จะฟอร์มรัฐบาลสำเร็จ เพราะเขาไม่ได้มีปัญหากับการแก้ ม.112 และมีสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคที่ไม่สนับสนุนก้าวไกล เช่น พลังประชารัฐ ก็เป็นลูกหม้อของเพื่อไทย เขาตกลงกันได้ สุดท้ายเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็อาจจะเจอม็อบด้อมส้ม แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ถ้าครั้งหน้าถ้า พิธา อยากได้โหวต ควรวางเกมแบบไหน หรือควรทำยังไง ส่วนตัวมองว่ามันบานปลายมาแล้ว ไม่ทันแล้วที่จะวางเกม หรือหาวิธีใดๆ มาช่วย ตนมองว่าอุดมการณ์ของพิธาและพรรคก้าวไกลมันก็ดูดี แต่ทำไมไม่เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่แรก ทำไมถึงปล่อยให้ “ธนาธร” หรือ “ปิยบุตร” ครอบ พูดตรงๆ ถ้าไม่ติด ม.112 “พิธา” ขึ้นเป็นนายกฯ ใสๆ เลย แต่ฟันธงเลยว่าไม่ว่าจะโหวตครั้งไหน พิธา ก็ไม่ได้เป็นนายก ให้ล้านล้านเปอร์เซ็นต์เลย ย้ำความมั่นคงต้องมาก่อน เสรีภาพไม่ได้สำคัญเท่าความมั่นคงของชาติ

นอกจากนี้ยังเผยอีกว่า ถ้าพิธาเป็นนายกฯ มีความเป็นไปได้ว่าประเทศไทยอาจจะกลายเป็นสงครามตัวแทน แต่ถ้าหากพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ ก็เกิดม็อบ แต่ไม่ลุกเป็นไฟ เพราะมันมีกระบวนการทางกฎหมายในการควบคุมดูแล คุกไม่ได้มีไว้ขังหมา ไม่งั้นใครจะปล้น จะเผาได้เหรอ กฎหมายกระบวนการยุติธรรมของไทยแข็งแกร่ง แล้วยิ่งถ้าเจอรัฐบาลพรรคเพื่อไทย คุณจะเจอของหนัก คอยดูว่าจะเป็นไปอย่างที่ตนพูดไหม

มันเห็นกันชัดเจนอยู่แล้วว่าพรรคเพื่อไทยเขาได้เป็นอันดับ 2 แต่เขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ คุณได้อันดับหนึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นรัฐบาลได้ คุณอย่าเข้าใจผิด ที่เพื่อไทยโหวตให้เป็นเพราะรักษามารยาท แล้ว ส.ว.ก็ยกมือให้ ตนให้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าพรรคเพื่อไทยได้ แต่ใครจะเป็นนายกฯ ก็อยู่ที่ว่าจะเสนอใครมา ส่วนที่พิธาบอกว่ารอได้ 4 ปี ยอมเป็นฝ่ายค้านได้ แล้วค่อยมาเป็นนายกฯ สมัยหน้า ก็แล้วแต่ เป็นเรื่องของ 4 ปีหน้า แต่สมัยนี้ไม่ได้