ฟังจากปาก !! “พลอยรัชษ์” ภรรยา “เอ๋ ไพโรจน์” เผยถูกบีบให้ออกจากบ้านหลังสามีเสียชีวิต ทั้งที่อยู่กินกันมา 20 ปี
พลอยรัชษ์ ภรรยาของนักแสดงอาวุโสผู้ล่วงลับ เอ๋ ไพโรจน์ เดินทางเข้าพบอัยการที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินและที่อยู่อาศัย หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดภายหลังการเสียชีวิตของสามี โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เอ๋ ไพโรจน์จากไป ตนไม่ได้รับโอกาสแม้แต่จะไปรับศพของสามี ไม่เคยเห็นใบมรณบัตรหรือเอกสารชันสูตรศพใด ๆ และรู้สึกว่าตนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะยืนอยู่ในงานศพของสามี
หลังจากงานศพผ่านไปไม่นาน พลอยรัชษ์ได้รับข้อความจากลูกของสามีว่า บ้านที่เธออาศัยอยู่กับเอ๋ ไพโรจน์มาตั้งแต่ปี 2547 ได้ถูกโอนกรรมสิทธิ์ไปให้บุคคลอื่นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมีข้อความถามว่าเธอจะย้ายออกจากบ้านเมื่อใด ซึ่งสร้างความอึดอัดและเสียใจอย่างมาก จนเจ้าตัวตัดสินใจไม่ติดต่อใครอีก
บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ มีเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา โดยตนกับสามีเคยรีโนเวตและดัดแปลงให้เป็นสตูดิโอเพื่ออยู่อาศัยร่วมกัน แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเปิดเผยในฐานะสามีภรรยา และเธอมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตั้งแต่ปี 2551
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พลอยรัชษ์ได้เดินทางกลับไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบว่ามีกุญแจใหม่คล้องอยู่ที่ประตูบ้าน จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นพยานในการสะเดาะกุญแจเข้าไปตรวจสอบภายใน เมื่อเข้าไปภายในบ้าน พบว่าลูกบิดหลายจุดถูกเปลี่ยนใหม่ ห้อง CCTV ก็มีการเปลี่ยนลูกบิดเช่นกัน รวมถึงห้องพระที่เคยล็อกไว้ก็ถูกเปิดออก โดยพบว่าพระเครื่องและพระบูชาหลายองค์ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของตนหายไป เหลือไว้เพียงพระของเอ๋ ไพโรจน์เพียงองค์เดียว ส่วนทรัพย์สินอื่นที่เคยจัดเก็บไว้ในลัง ยังไม่ได้ตรวจสอบทั้งหมดว่าอะไรสูญหายบ้าง
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดใหม่ภายในบ้านโดยที่เธอไม่ทราบมาก่อน ซึ่งทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก และเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ขณะที่กลับเข้าไปที่บ้านอีกครั้ง ยังไม่ทันถึง 20 นาที ก็มีตำรวจสายตรวจเข้ามาพบ พร้อมแจ้งว่าเธอเป็นผู้บุกรุก และขอให้เธอออกจากบ้านทันที ทั้งที่เธอได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาต่อเนื่องถึง 20 ปี ไม่ได้บุกรุกแต่อย่างใด
จากเหตุการณ์ทั้งหมด พลอยรัชษ์เปิดเผยว่า รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจเข้าขอคำปรึกษาทางกฎหมายกับทางอัยการ เพื่อหาทางปกป้องสิทธิของตนเอง และขอความเป็นธรรมในสิ่งที่เกิดขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : ช่อง 3