ช่วงนี้ โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ เริ่มกลับมาระบาดใน ประเทศไทย อีกครั้ง! วันนี้มาลิสต์รายชื่อ 5 ยา ที่ควรมีติดบ้าน ช่วง โควิด-19 ระบาด
กรมควบคุมโรค เผยตัวเลขผู้ป่วยโควิดช่วงสงกรานต์ 2566 (9-15 เม.ย.) เข้ารับรักษาในรพ.แล้ว 435 ราย เฉลี่ยวันละ 62 ราย แนวโน้มรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อนหน้า ผู้เสียชีวิต (รายสัปดาห์) จำนวน 2 ราย ซึ่งมี ผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยจะมียอดสะสมผู้ป่วยโควิดหลัก 100 เท่านั้น และโควิดสายพันธุ์หลักในประเทศเป็น XBB.1.5 ซึ่งสามารถแพร่ได้รวดเร็วกว่าโควิดทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันเลยทีเดียว

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังน่ากังวล และทุกคนต้องอยู่บ้านหากไม่มีความจำเป็นก็ให้งดเดินทาง งดออกจากบ้านหรือ Work Form Home เพราะฉะนั้นในช่วงสถานการณ์แบบนี้สิ่งที่ทุกบ้านควรต้องมี คือ ยาสำคัญพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อป้องกันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน วันนี้ Bright TV จึงมารวบรวมยาที่สำคัญ ลิสต์ไว้! 5 ยาที่ควรมีติดบ้าน ช่วง โควิด-19 ระบาด ซึ่งจะเป็นยาที่สามารถซื้อไว้ติดบ้านได้ จะเป็นยาในกลุ่มแรก คือ ยารักษาตามอาการ หรือยาเพื่อบรรเทาอาการของโรค
ยาพาราเซตามอล
โดยให้กินยาพาราเซตามอลทันทีเมื่อมีไข้ หรือมีไข้สูงเกิน 37 องศาเซลเซียส เนื่องจากนอกจากอาการโควิด-19 การมีไข้สูงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น หัวใจเต้นเร็ว ร่างกายอ่อนเพลีย หรือร่างกายขาดน้ำ ทั้งนี้ต้องระวังบางยี่ห้อที่ผู้ป่วยที่ทานยาละลายลิ่มเลือดควรระวัง
ยาฟ้าทะลายโจร
เป็นยาช่วยบรรเทาอาการที่ไม่รุนแรง แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันการป่วยจากโควิด-19 ใช้ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดโรครุนแรง หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ใช้เมื่อเริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อย เช่น คัดจมูก มีน้ำมูก ไม่ควรกินเกินวันละ 180 มิลลิกรัม แบ่งกินวันละ 3-4 ครั้ง
ข้อควรระวัง :
- ไม่ควรกินเกิน 5 วัน หลังกินยาฟ้าทะลายโจรไป 3 วันหากอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์
- ไม่ควรกินยาฟ้าทะลายโจร ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาลดความอ้วน
- ควรเลือกซื้อยาฟ้าทะลายโจรที่ผ่านการรับรองจาก อย.เท่านั้น
ยาแก้ไอ Dextromethorphan
ถ้ามีอาการไอเยอะ สามารถกินได้ แต่ควรกินตามขนาดที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ และกินเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีอาการปอดอักเสบ เนื่องจากสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบแล้ว กินยาแก้ไอลักษณะนี้ เหมือนเป็นการไปกดอาการไอมากจนเกินไป ทำให้ร่างกายจะขับเสมหะออกมาตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้
ยาแก้แพ้ Chlorpheniramine หรือ CPM
เป็นยาเพื่อช่วยลดเสมหะ ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น สามารถบรรเทาอาการได้ ในคนที่มีอาการเยอะ
ข้อควรระวัง :
- หากเป็นผู้ป่วยโรคไต หรือ โรคตับบางอย่างที่มีข้อห้ามในการใช้ก็ต้องระมัดระวัง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น : หากใช้มากเกินไปอาจทำให้น้ำมูกแห้ง คอแห้ง ปากแห้ง หรือมีอาการง่วงซึมได้ ควรใช้เท่าที่จำเป็น หรือใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
เม็ดฟู่ละลายเสมหะ Acetylcysteine
ใช้ช่วยละลายเสมหะ ขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ลดการเกาะตัวของเชื้อแบคทีเรียกับเซลล์เยื่อบุผิวทางเดินหายใจ ต้านพิษภาวะตับอักเสบจากการกินยาพาราเซตามอล รวมถึงทำให้หายใจโล่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้อุปกรณ์ที่ควรต้องมีติดบ้าน ได้แก่
1. ปรอทวัดไข้ โดยวัดในช่วงเช้า และเย็น อุณหภูมิร่างกายไม่ควรเกิน 37.5 องศาเซลเซียส และสังเกตอาการอื่นร่วม ที่อาจเสี่ยงเป็นโควิด-19 เช่น มีอาการไอ เจ็บคอ เหนื่อยหอบ หรือหายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ต้องรีบไปพบแพทย์
2. เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด เป็นเครื่องที่ใช้หนีบบริเวณปลายนิ้ว สามารถอ่านค่าออกซิเจนเบื้องต้นของร่างกายได้ โดยค่าออกซิเจนในเลือดทั่วไปจะอยู่ที่มากกว่า 95% เครื่องนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ต้องกักตัวที่บ้าน หรือรอเตียงรักษา การวัดออกซิเจนในเลือดจะช่วยทำให้เราสามารถทราบว่า อาการของเราแย่ลงหรือยัง ถ้าค่าออกซิเจนต่ำกว่า 95 ต้องรีบพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาทันที
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY