อันตราย! หากสัมผัสโดน โซดาไฟ ต้องทำยังไง วิธีการปฐมพยาบาล อาการเป็นอย่างไรบ้าง สามารถส่งผลต่อร่างกายได้หลายระบบ
โซดาไฟ เป็นสารเคมีที่อันตรายเนื่องจากร่างกายของเราสัมผัสโดยตรงกับสารเคมี อาจทำให้เกิดการระคายเคืองรวมถึงเกิดการไหม้ของผิวหนังได้ และยิ่งอันตรายหากสัมผัสกับอวัยวะสำคัญ เช่น ตา เป็นต้น แต่สารเคมีชนิดนี้ก็ยังเป็นที่ยอดนิยมสำหรับการทำความสะอาดท่อระบายน้ำ และมีฤทธิ์กัดกร่อนมาก ดังนั้นเราควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเผื่อสัมผัสโดนโซดาไฟ ขึ้นมา

อันตรายจากโซดาไฟ
พิษจากโซดาไฟสามารถเข้าสู่ร่างกายได้จากหลายวิธีทั้งการสัมผัสกับผิวหนัง เข้าสู่ดวงตา สูดดมไอระเหยของสาร หรือรับประทานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้
ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
- หายใจลำบาก
- ปอดอักเสบ หรือมีภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
- มีเสียงหวีดขณะหายใจ
- ระคายเคืองเนื้อเยื่อบริเวณจมูก คอ ระบบทางเดินหายใจ
- ลำคอ หรือกล่องเสียงบวมซึ่งอาจนำไปสู่การอุดตันของทางเดินหายใจส่วนบนหรือภาวะขาดอากาศหายใจได้
ผลกระทบต่อผิวหนัง
- แสบร้อนที่ผิวหนัง
- ลมพิษ
- ผิวหนังระคายเคือง
- ผิวหนังไหม้อย่างรุนแรงจนเกิดเป็นแผลลึก
ผลกระทบต่อหู ตา คอ และจมูก
- ระคายเคืองตา
- เส้นเลือดในตาเกิดการอุดตัน มีของเหลวภายในลูกตา
- มีแผลที่กระจกตา หรือกระจกตาถูกทำลาย
- สูญเสียการมองเห็น
- เจ็บคออย่างรุนแรง
- แสบร้อนในจมูก ตา หู ริมฝีปาก หรือลิ้น
ผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร
- อาเจียน โดยอาจมีเลือดปนออกมาได้
- กลืนลำบากและมีน้ำลายไหล
- ปาก คอ หลอดอาหาร และกระเพาะอาหารถูกกัดกร่อนอย่างรุนแรง
- เจ็บหน้าอก และปวดท้องอย่างรุนแรง
- แสบร้อนในลำไส้และกระเพาะอาหาร
- ท้องเสีย ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
ทั้งนี้ การรับโซดาไฟเข้าไปในร่างกายในระยะยาวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งผู้ที่สูดดมฝุ่นควันจากสารนี้อาจทำให้เกิดแผลภายในจมูก หากสัมผัสผ่านผิวหนังก็อาจป่วยเป็นโรคผิวหนัง และเมื่อรับประทานเข้าไปเป็นประจำก็อาจทำให้ระบบทางเดินอาหารทะลุ ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และพัฒนาการของร่างกาย รวมทั้งก่อให้เกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
วิธีการปฐมพยาบาล
หากโซดาไฟกัดผิวหนัง
- โซดาไฟ มีฤทธิ์เป็นด่าง จึงกัดผิวหนังได้ ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งมีฤทธิ์มาก อันตรายเฉียบพลัน
เมื่อถูกผิวหนังให้รีบล้างออกโดยให้น้ำไหลผ่านบริเวณที่ถูกสารอย่างน้อย 30 นาที พร้อมกับถอดชุดอุปกรณ์ต่างๆที่เปื้อนสารออกแล้วรีบนำส่งแพทย์
หากโซดาไฟเข้าตา
- หากเข้าตาจะมีฤทธิ์ทำลายตั้งแต่ระคายเคืองหรือรุนแรงกระทั่งทำให้ตาบอดได้ หากถูกผิวหนังจะทำให้เกิดการไหม้จนเป็นแผลลึก หากเข้าตารีบล้างตาด้วยน้ำอุ่นโดยค่อย ๆ ให้น้ำไหลผ่านตา 30 นาที เปิดเปลือกตาไว้ อย่าให้น้ำล้างตาไหลเข้าตาข้างที่ไม่เป็นอะไร
หากกินโซดาไฟ
- หากรับประทานเข้าไปจะเกิดการไหม้ในปาก ลำคอ และทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผู้ที่เคยได้รับสารเข้าไปทางปาก อาจมีการพัฒนากลายเป็นมะเร็งในภายหลัง 12-42 ปี หลังจากกินเข้าไป
- ห้ามทำให้อาเจียนเด็ดขาด
หากสูดดมโซดาไฟ จนเกิดอันตราย
- ถ้าหายใจเข้าไปโดยการสูดดมฝุ่นควันของสารจะระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ อาจเกิดปอดอักเสบ น้ำท่วมปอดได้ ถ้าหายใจเข้าไปให้รีบย้ายผู้ป่วยออกมาให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์แล้วนำส่งแพทย์
ทั้งนี้ทางที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการใช่โซดาไฟจะปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ยังมีสารฟอกขาวที่ห้ามใช้ร่วมกับน้ำยาล้างห้องน้ำเพราะจะทให้เกิดแก๊สขึ้นและเป้นอันตราย ทางที่ดีควรใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับผลิตภัณฑ์หรือว่าจะเป็นน้ำส้มสายชูกับน้ำยาล้างจานก็สามารถใช้งานร่วมกันได้
แหล่งที่มา pobpad และ thaichems
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY